ททท.คุนหมิงรุกตลาดจีน 3 เมืองใหญ่ “ยูนาน-กุ้ยโจว-กว่างสี” คาราวานรถเที่ยวสงกรานต์ทั่วไทยใช้เงินอื้อ 6 หมื่น/คน/ทริป



  • ททท.คุนหมิงเปิดแผนรุกตลาดจีน3มณฑลใหญ่ยูนานกุ้ยโจวกว่างสีเฮเที่ยวไทยทางเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯแล้วกว่า2,600ที่นั่ง/สัปดาห์
  • 3แอร์ไลน์เปิดจุดบินเพิ่มหนานหนิงภูเก็ตส่วนทางบกวันนี้-26เม..คาราวานเที่ยวสงกรานต์R3Aมาเพียบ350คันกว่า1,000คนเที่ยวทั่วไทย
  • ภาคเหนือภาคกลางภาคตะวันออกภาคอีสานใช้เงินเต็มเหนี่ยวสูงสุด60,000บาท/คน/ทริปพักนาน10วันลุ้นข่าวดีจีนไฟความเร็วสูง
  • รุกเจาะ 4 ตลาดคุณภาพ Active Senior คนรุ่นใหม่ วัยรุ่นเพิ่งแต่งงานใหม่ ครอบครัว และขับรถเที่ยว

นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดเผยว่า ได้ดูแลตลาดท่องเที่ยวจีนมาไทยใน 3 มณฑล ยูนาน กุ้ยโจว กว่างสี อยู่พื้นที่อยู่ทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ระยะทางไม่ไกลจากเมืองไทย ในสถานการณ์ปกติปี 2562 เคยมีจีนในพื้นที่ดังกล่าวมาเที่ยวเมืองไทยปีละ 1.3 ล้านคน ปี 2566 จะฟื้นฟูเพิ่มได้อีก 15 % ของปี 2562 และทุกสำนักงานมีเป้าหมายต้องทำให้ได้ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ตามนโยบายหลักจะเน้นฟื้นฟูให้กลับมาแบบค่อยเป็นค่อยไป

ปี 2566 ททท.คุนหมิง สามารถนำนักท่องเที่ยวมาไทยได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางที่ 1 ทางอากาศ จากมณฑลคุนหมิง กุ้ยโจว หนานหนิงซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกว่างสี มีสายการบินต่าง  เปิดเที่ยวบินเข้ามายังกรุงเทพฯ และภูเก็ตทางภาคใต้ของไทย อนาคตเร็ว  นี้ จะมีเที่ยวบินตรงจากคุนหมิง สิบสองปันนา เข้าภูเก็ต และเชื่อมจุดบินต่อไปยังเชียงใหม่

ขณะนี้มี “จำนวนที่นั่งเที่ยวบิน” ไปกลับ คุนหมิงกรุงเทพฯ แล้ว 6 สายการบิน รวม 2,600 ที่นั่ง/สัปดาห์ ตั้งแต่ตารางบินฤดูร้อน หลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป จะเพิ่มเป็นบินทุกวัน เริ่มบินโดย คุนหมิงแอร์ไลน์ส ลักกี้แอร์ไลน์ จากนั้นคุนหมิงแอร์ไลน์สจะเพิ่มความถี่เส้นทางบิน คุนหมิงภูเก็ต เป็น 3 เที่ยว/สัปดาห์

ส่วนนักท่องเที่ยวจาก “เมืองหนานหนิง” ตอนนี้มีเที่ยวบิน ไปกลับ สนามบินนานาชาติหนานหนิงกรุงเทพฯ รวม 3 สายการบิน ได้แก่ นกแอร์ สปริงแอร์ไลน์ส จีเอสแอร์ไลน์ หลังวันที่ 26 มีนาคม นี้เป็นต้นไป มีเพิ่มเส้นทางใหม่ หนานหนิงภูเก็ต ด้วยเช่นกัน

ทางด้าน “กุ้ยโจว” ได้ใช้สนามบินนานาชาติกุ้ยหยาง เริ่มบริการบินตรงแบบประจำโดยสายการบิน 9Air เริ่มมาตตั้งแต่ 14 มีนาคม 2566 เป็นต้นมา กุ้ยหยางภูเก็ต กับ กุ้ยหยางกรุงเทพฯ เร็ว  นี้ จะมีสายการบินเพิ่ม ได้แก่ ไทยเวียตเจ็ท เปิดเที่ยวบิน ไปกลับ กุ้ยหยางกรุงเทพฯ เสริมอีกราย

ช่องทางที่ 2 ทางบก หลังรัฐบาลจีนประกาศอนุญาตบริษัทนำเที่ยวสามารถขายทัวร์ให้เดินทางเป็นหมู่คณะได้ตั้งแต่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา โดยมีไทยรวมอยู่ใน 20 ประเทศแรกด้วย จึงทำให้นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางจัดคาราวานรถยนต์” ขับรถท่องเที่ยวผ่านด่านทางบกมาตามเส้นทาง R3A จากคุนหมิงสิบสองปันนา ผ่านด่านโม่ฮา(จีนทะลุเข้าสู่ด่านบ่อเต็น จนถึงถึง ห้วยทราย สปป.ลาว แล้วเข้าสู่ “เชียงของ” .เชียงราย รวมถึงยังมีด่านอื่น  จากจีนเข้าไทย เช่น ด่านหนองคาย .หนองคาย ด่านท่าลี่ .เลย ด่านห้วยก๋วน .น่าน เป็นช่องทางที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมขับรถเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย

ขณะนี้ชาวคุนหมิงตื่นเต้นมากที่จะได้ท่องเที่ยวทาง “รถไฟความเร็วสูง” จากจีนผ่าน สสป.ลาว ปัจจุบันรัฐบาลจีนอนุญาตให้ขนส่งทางรางด้วยรถไฟความเร็วสูงเพื่อบริการขนส่งโลจิสติกส์สินค้าเป็นหลักจากจีนมายับ 2 ด่าน คือ บ่อเต็น ห้วยโก๋น ของ สสป.ลาว ส่วนการเปิดบริการ “คนเดินทางท่องเที่ยวรถไฟความเร็วสูง” เส้นทางนี้จะต้องประกาศของรัฐบาลจีนอีกครั้งภายในเดือนเมษายน 2566 ซึ่งจะอนุญาตให้ชาวจีนนั่งรถไฟข้ามจากเมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาวผ่านด่านหนองคายมาเที่ยวเมืองไทยได้

ช่องทางที่ 3 ทางน้ำ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู มีแนวโน้มทยอยกลับมาเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้งด้วยรัฐบาลจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย และคนจีนเองก็ชื่นชอบเมืองไทยเป็นอันดับต้น 

ผอ.รุ่งทิพย์ กล่าวว่าภายใต้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลจีนและไทย หลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวจึงเริ่มเดินทางแบบค่อยเป็นค่อยไปมาเป็น “หมู่คณะหรือกรุ๊ปขนาดใหญ่” มากขึ้น ตามนโยบาย ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ขอให้เน้นพลังนำจีนกลับมาเที่ยวเมืองไทยภายใต้กลยุทธ์ China is Back :Amazing New Chapters ดังนั้น ททท.ทั้ง 5 สำนักงานจะช่วยกันอย่างเต็มที่ รวมทั้ง สำนักงานคุนหมิงด้วย

โมเดลตัวอย่างที่ทาง ททท.คุนหมิง ร่วมกับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในกุ้ยหยาง 5 บริษัท แล้วจับมือกับ 9Air ผลิตขายแพกเกจจีนท่องเที่ยวไทย 6 วัน ราคา 4,000-8,000 หยวน (20,000-40,000 บาท/คน/ทริปสามารถกระตุ้น “ตลาดศักยภาพจีนคุนหมิง” ได้เป็นจำนวนมาก กระแสตอบรับดีมากทำให้สายการบินมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่า 90 %

ช่วงโลว์ซีซันเมษายนพฤษภาคม 2566 ททท.คุนหมิง วางแผนจะขยายผลทัวร์กรุ๊ปจากจีน โดยเฉพาะการเจาะกำลังซื้อ 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Active Senior เปิดให้จองซื้อแพกเกจบ้างแล้ว ราคาขายได้ค่อนข้างสูงทำได้ถึง8,000 หยวน/คน/ทริป เป็นกรุ๊ปที่นิยมมาภูเก็ต พังงา ขนาดกรุ๊ปละ 30-50 คน/ทริป กลุ่มที่ 2 ครอบครัวที่เพิ่งแต่งงานใหม่ กลุ่มที่ 3 กลุ่มครอบครัวพร้อมลูกเล็ก สิงหาคมนี้จะเดินทางมาหาประสบการณ์กรุงเทพฯ หัวหิน เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน

กลุ่มที่ 4 คาราวานขับรถเที่ยวสงกรานต์ในไทย 350 คัน กว่า 1,000 คน เริ่ม 2-26 เมษายน 2566 แต่ละคณะจะแยกกันเข้าตามด่านต่าง  ทั้งหนองคาย ท่าลี่ เชียงของ และด่านอื่น  เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วทุกกลุ่มจะไปรวมตัวกันฉลองสงกรานต์” พร้อมกัน ในวันที่ 12 เมษายน นี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่  คาราวานทัวร์จีนกลุ่มดังกล่าว มีวันพักเฉลี่ย10-16 วัน พร้อมใช้จ่ายเงินประมาณ 35,000-60,000 บาท/คน/ทริป

ทาง ททท.ได้นำเสนอขายทิวทัศน์ตามเมืองท่องเที่ยวตามเส้นทางขับรถเฉลี่ยวันละ 250 กมระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะใช้เงินกับค่าอาหาร ชมศิลปะวัฒนธรรม สักการะสิ่งศักดิ์ตามวัดสำคัญ และช้อปสินค้าท้องถิ่น ตัวอย่างเส้นทางคาราวานรถยนต์จากจีนจะเข้ามาทางภาคเหนือ ผ่านด่าน เชียงของ .เชียงราย เข้าเชียงใหม่ สุโขทัย พิษณุโลกกรุงเทพฯ พัทยา .ชลบุรี เกาะช้าง .ตราด แล้ววกกลับไปทางภาคอีสาน นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคายทะลุเวียงจันทน์ หลวงพระบาง สปป.ลาว เข้ายูนาน จีน

ส่วนสินค้าที่นักท่องเที่ยวคุนหมิงชื่นชอบคือ อันดับ 1 แหล่งท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเล ภูเก็ต กระบี่ พังงา ฝั่งอันดามัน เพราะช่วงโควิดธรรมชาติฟื้นตัวกลับมาสวยงามมาก อันดับ 2 ต้องการมารับประทานอาหารไทย อาหารทะเลสด และเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร ททท.ทดลองทำโปรแกรมเที่ยวและกินอาหารทะเลในพังงา ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนด้วย เนื่องจากเทรนด์หลังโควิดในจีนเปลี่ยนมานิยม ท่องเที่ยวมีความสุขและได้มีส่วนร่วมช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ผอ.รุ่งทิพย์ กล่าวว่า จะความร่วมมือจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยให้จัดเตรียม ไกด์ภาษีจีน กับป้ายบอกทางแต่ละเส้นทางเป็นภาษีจีน และสินค้าท้องถิ่นระหว่างทางที่ชอบซื้อมาก เช่น วัตถุดิบอาหาร ข้าวหอมมะลิ หากชุมชนท่องเที่ยวต่างๆ จะจัดให้มีบริการจ่ายเงินผ่านระบบ WeChat ก็จะทำยอดขายเพิ่มรายได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen