ถูกปรับหลุด ครม.ก็ยอม “ม.ร.ว.จัตุมงคล” แจงชัดปมลาออกหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ลั่นเปิดโอกาสให้พรรคเดินในทิศทางที่ต้องการ



  • ย้ำในพรรคไม่มีเรื่องโกรธเคืองกัน
  • พร้อมรายงานนายกฯทราบเรื่องแล้ว
  • ลั่นเวลานี้ยังทำหน้าที่ รมว.แรงงาน อยู่เต็มที่

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน และหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เปิดเผยถึงเรื่องการลาออกจากหัวหน้าพรรค หลังจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ประเมินผลงานแล้วมีความเห็นไม่ให้ผ่าน เนื่องจากช่วงที่ประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผู้ว่างงานในระบบประกันสังคมนับล้านคน แต่การดำเนินงานของ รมว.แรงงาน กับแก้ปัญหาไม่ทันต่อความเดือดร้อน รวมถึงมีกระแสข่าวโจมตีการทำงานของกระทรวงแรงงานจากภายนอก จึงทำให้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติดังกล่าวว่า การเลิกกับภรรยา และเลิกกับพรรค ไม่อธิบายจะดีที่สุด เพราะจะมีปัญหาภายหลังกันไปเปล่าๆ 

โดยหลังจากนี้ได้แต่หวังว่าคนจะสนับสนุนพรรคกันต่อไป เรื่องการลาออกนั้น ได้ชี้แจ้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมแล้วว่า ได้ยินกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้เรียนแจ้งว่าในส่วนของตำแหน่งตนเองนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงสามารถปรับเปลี่ยนได้เลยโดยที่ไม่ต้องกังวลอะไร

ส่วนสถานะการทำงานในตำแหน่ง รมว.แรงงาน ตอนนี้ก็ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็คงไปบังคับไม่ได้ แต่ยืนยันว่าตนพอใจในการทำงานในฐานะที่เข้ามาปรับเปลี่ยนผลักดันทิศทาง การทำงานในกระทรวงแรงงานให้ไปสู่แนวทางที่ดีขึ้น ซึ่งก็ทำได้ในระดับหนึ่ง เพราะการทำงานที่จะได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ไม่ใช่แค่สั้นๆจะสำเร็จทั้งหมด 

ในส่วนกระแสข่าวที่ลาออก เพราะผลงานไม่เข้าเป้า และมีการประเมินจากทางพรรคและกระทรวงแรงงานว่าการทำงานไม่ผ่านโปรนั้น  ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ไม่จริง เพราะการทำงานไม่ได้มีเป้าหมายที่ระบุชัดเจนขนาดนั้น  และตัวเลขที่สื่อมวลชนนำมาเสนอในระหว่างการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีก็มีความสับสน ในส่วนของกระทรวงฯ ตนเริ่มงานในกระทรวงจากศูนย์ ซึ่งตอนนี้ก็เดินหน้าไปในทิศทางที่เป็นที่น่าพอใจ แต่การที่จะทำให้นโยบายประสบความสำเร็จต้องใช้ระยะเวลานาน อาจต้องใช้เวลาถึง 5 ปี แต่ระยะเวลาสั้นๆแค่นี้ คงจะทำให้สมบูรณ์ทุกอย่างคงจะไม่ได้

“สำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่มีใครต่อว่าอะไรที่ลาออกเพราะคิดมาเอง เหตุผลคืออยากให้พรรคเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีกว่านี้ อยากให้พรรคเดินไปในทิศทางที่เป็นพรรคของประชาชน ที่ลาออกสาเหตุก็ง่ายๆ ในเมื่อทิศทางที่ตัวเองกำหนด และต้องการให้พรรคเดินต่อไป แต่เมื่อคนในพรรคไม่มีใครเห็นด้วย และเมื่อความเห็นไม่ตรงกัน ก็คงจะไปด้วยกันต่อไม่ได้” ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว

ส่วนกรณีที่บอกว่าไม่ผ่านโปรหรือไม่พอใจการทำงานนั้น ตนคิดว่าไม่น่ามีใครไม่พอใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่าพอใจคืออะไร ที่ออกมาเพราะแค่อยากให้พรรคเดินหน้าต่ออย่างที่ต้องการ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ภายในพรรค ทั้งในระดับผู้บริหาร หรือสมาชิกพรรคไม่ได้มีการโกรธเคืองใดๆทั้งสิ้น

“ผมเข้ามาทำงานเพราะในชีวิตอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง จึงเสนอทิศทางของพรรคในรูปแบบที่อาจดูไม่ปกติ แต่เมื่อคนที่คอนโทรลพรรคไม่ไปด้วย ทางพรรคฟังผมนะแต่ทิศทางที่พรรคจะไป ไม่ใช่ทิศทางที่ผมต้องการจะไป ก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ และยิ่งผมไม่อยู่ก็ยิ่งต่อรองกันง่ายขึ้น “ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว