- “ถาวร”เร่งจี้ฝ่ายบริหารศึกษาการแข่งขันตลาดระยะใกล้
- สู้ศึกโลว์คอส์ตหลังพบแผนพบซื้อเครื่องลำตัวแคบ22 ลำ
นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงแผนจัดหาฝูงบินใหม่ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า หลังจากที่ตนได้สอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในการจัดหาเครื่องบินจำนวน 38 ลำของการบินไทย ซึ่งมีการสอบถามไป 6 ประเด็นสำคัญขณะนี้ยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากทางฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะเป็นประเด็นขอให้ชี้แจงแหล่งที่มาของเงินทุนในการจัดหาเครื่องบินให้ชัดเจนว่าจะได้เงินทุนจากการออกหุ้นกู้หรือเพิ่มทุน รวมไปถึงแผนจัดหาเครื่องบินที่เป็นลำตัวแคบจำนวน 22 ลำ จะนำมาใช้งานเองหรือให้บริษัท ไทยสมายล์ จำกัดเช่า
รวมทั้งขอทราบข้อเท็จจริงตัวเลขประมาณการรายได้และผลกำไร (ขาดทุน) ขอทราบวิธีการจัดหาเครื่องบินว่าใช้วิธีใดบ้าง มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร และเมื่อจัดหาเครื่องบินแล้ว เครื่องบินรุ่น 777 ที่จะรับมอบปลายปี 2563 อีก 3 ลำ อยู่ในแผนนี้หรือไม่
“เรื่องการซื้อลำตัวแคบ ประเด็นนี้ผมมีข้อสงสัยอยู่หลายส่วนที่อยากให้ทางฝ่ายบริหารตอบให้ชัดเจน เพราะตามแผนพบว่าต้องการหาเครื่องบินใหม่เพื่อมาทดแทนเครื่องบินเก่าที่ปลดระวาง แต่เครื่องบินที่ปลดระวางไปเป็นลำตัวกว้าง เครื่องที่จะมาใหม่กลับเป็นลำตัวแคบถึง 22 ลำ และลำตัวกว้างเพียง 3 ลำ ก็กังวลว่าจะพอกับการทดแทนหรือไม่”
นอกจากนี้ ตนยังมีข้อกังวลถึงการนำเครื่องบินลำตัวแคบที่จะมีชั่วโมงบินอยู่ในพิสัยระยะใกล้ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันจากสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอส์ต) ค่อนข้างมาก ประกอบกับตลาดสายการบินโลว์คอส์ต หรือเส้นทางบินระยะใกล้ การบินไทยมีสายการบินไทยสมายล์ที่สามารถแข่งขันได้ มีเครื่องบินอยู่ในฝูงบินถึง 20 ลำ ดังนั้นจึงกังวลในส่วนของแผนจัดหาเครื่องบินใหม่นี้ ฝ่ายบริหารวางแผนไปพร้อมกับการประเมินการแข่งขันสู้กับตลาดอย่างไร
นายถาวร ยังกล่าวอีกว่า เบื้องต้นตนได้ทราบว่าฝ่ายบริหารของการบินไทย มีแผนที่จะจัดหาเครื่องบินลำตัวแคบเพื่อมาปรับปรุงบริการ ปรับปรุงเก้าอี้ และไปให้บริการในเส้นทางระยะใกล้ที่มีความต้องการเดินทางสูง แต่ส่วนตัวประเมินว่า พฤติกรรมของผู้โดยสารที่เดินทางระยะใกล้ ใช้เวลา 5 ชั่วโมง อาจจะไม่ได้ต้องการจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเดินทางอย่างสะดวก เมื่อเทียบกับโลว์คอส์ตแอร์ไลน์ที่จ่ายน้อยกว่าและเดินทางในเวลาเท่ากัน
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า การจัดหาฝูงบินใหม่จำนวน 38 ลำของการบินไทย เป็นแผนระหว่างปี 2562-2569 วงเงินลงทุนรวมไม่เกิน 156,169 ล้านบาท ซึ่งการจัดหาจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ปี 2562-2567 จำนวน 25 ลำ พร้อมเครื่องยนต์สำรอง วงเงินลงทุนรวมไม่เกิน 78,614 ล้านบาท ประกอบด้วย เครื่องบินลำตัวกว้าง พิสัยกลาง-ไกล ขนาด 250-375 ที่นั่ง จำนวน 3 ลำ และเครื่องบินลำตัวแคบพิสัยใกล้ ขนาด 170-220 ที่นั่ง จำนวน 22 ลำ
และปี 2563-2569 จำนวน 13 ลำ พร้อมเครื่องยนต์สำรอง วงเงินลงทุนรวมไม่เกิน 77,555 ล้านบาท เพื่อทดแทนการปลดระวางเครื่องบินแอร์บัส A380-800 และเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER
