- เผยเวลานี้เรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ต้องให้พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 จัดตั้งลั่นรทสช. เป็นฝ่ายค้านทำงานได้เช่นกัน
- ชี้ในอนาคตถ้าพรรคการเมืองจะทำการเมือง ต้องปรับตัว เผยการเมืองแบบเก่ามากเกินไปก็ไปยาก ต้องผสมผสานคนทุกรุ่นเข้าด้วยกัน
- เอ่ยบิ๊กตู่ยังไม่ได้เปรยทิศทางจากนี้ ส่วนตัวคิดว่าท่านอาจต้องพอแล้ว เพราะท่านทำเพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิตแล้ว
วันนี้ (15 พ.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้ง ว่า ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่ให้ความไว้วางใจเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งได้ตามที่เห็น จึงต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ตนคิดว่าจำนวน ส.ส.เป็นไปตามเป้า เพราะจังหวัดนครศรีธรรมราช ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อสูงสุด ซึ่งต้องขอบคุณคนจังหวัดนครศรีธรรมราชบ้านเกิดของตนด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มผู้สื่อข่าวมีการถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคหรือไม่ ว่าจะเดินหน้าพรรคอย่างไรต่อไป นายธนกร กล่าวว่า จริงๆแล้วเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการคุยกันแต่ยังไม่เป็นทางการ เวลานี้เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลต้องให้พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล และเราก็รอดูอยู่
ทั้งนี้ในส่วนของ นายกฯ เราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สำหรับตนเองที่มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ เอาอย่างไร ตนก็เอาแบบนั้น และในพรรคก็คุยกันได้ทุกคนทั้งหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค เพราะทำงานด้วยกันมานานพอสมควร จึงคิดว่าทุกคนในพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งกระบวนการตัดสินใจต่างๆ อยู่ที่พรรคและตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
เมื่อถามว่า ช่วงเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปในนามรัฐบาลรักษาการณ์ใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค.ตนได้คุยกับนายกฯ ซึ่งท่านบอกว่าในช่วงรักษาการณ์ขอให้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งดูไทม์ไลน์แล้วอีกประมาณ 3 เดือน ดังนั้นช่วงรักษาการเราต้องทำงานอย่างเต็มที่ ตนในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ก็จะทำงานอย่างเต็มที่เช่นกัน
“ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร เพราะจริงๆแล้วการเมืองเราอยู่กันมาพอสมควร จึงมีแพ้มีชนะ ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล ภูมิใจไทย และอีกหลายๆ พรรค ยินดีด้วยที่ได้คะแนนกันมาเยอะ ซึ่งอยู่ที่แต่ละพรรคจะมีวิธีการจัดตั้งรัฐบาลกันอย่างไรต้องรอดู” นายธนกร กล่าว
นอกจากนี้ เมื่อถามว่า เวลานี้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย โดยจะไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าเราคาดเดาไม่ได้ แต่พวกเรามีสปิริตทางการเมืองอยู่แล้ว โดยให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล ถ้าไม่ได้ก็เป็นพรรคอันดับ 2 ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เคยปฏิบัติกันมา สำหรับตนถ้าไปเป็นฝ่ายค้านก็พร้อมอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร
การเมืองไม่ใช่เรื่องของทั้งหมด เราอาสาเข้ามาทำงานให้กับประชาชนอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้
เมื่อถามว่า ในทางการเมืองพูดเสมอไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร พรรครวมไทยสร้างชาติมีโอกาสจะถูกจีบไปอยู่ซีกของรัฐบาลหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า อันนี้ตนไม่แน่ใจ แต่การเมืองคิดว่าเป็นไปได้หลายหน้า เพราะรู้จักกันทั้งนั้น ทุกพรรคตนก็รู้จักทุกคน เวลาเราลงสนามเลือกตั้งก็ว่าไปตามเกมการเมือง แต่ในความสัมพันธ์ส่วนตัวคุ้นเคยกันหมด
ทั้งนี้ กลุ่มสื่อมวลชนยังถามว่า แบบนี้แสดงว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ปิดช่องตายตัว นายธนกร ตอบว่า เรื่องนี้อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค แต่ตนเองพอใจในสิ่งที่มีอยู่แล้ว โดยส่วนตัวให้กำลังใจนายกฯ มากกว่า สำหรับตนเองไม่ได้รู้สึกอะไรว่าจะได้เป็นหรือไม่ได้ เป็นส.ส. เพราะเลยจุดนั้นมาแล้วที่เรามีความสุข และที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ให้ความเมตตาตนเยอะ ตอนนี้แค่ห่วงท่านเท่านั้น ซึ่งยังได้คุยกับท่านว่าอาจจะไปนั่งกินข้าวกับท่านบ่อยๆ ในอนาคต
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ เปรยหรือไม่หากพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้เป็นรัฐบาลยังจะทำงานการเมืองต่อ นายธนกร กล่าวว่า “ไม่ได้เปรย แต่ผมคิดว่าท่านอาจจะต้องพอแล้วมั้งครับ ผมคิดว่าท่านก็ทำเพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิตแล้วและวันนี้ท่านก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ 7-8 ปีที่เป็นนายกฯ ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็รู้ว่าท่านนายกฯได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศมามากมาย และไม่มีเรื่องเสียหายหรือเรื่องคอรัปชั่นกับตัวท่านเลย และผมเชื่อว่าอย่างน้อย พล.อ.ประยุทธ์ หรือลุงตู่ ยังอยู่ในใจคนไทยไปอีกยาวนาน
ฉะนั้นผมคิดว่า วันนี้ผมให้กำลังใจท่านดีกว่า ไม่ได้รู้สึกว่าเราพ่ายแพ้ แล้วจะเป็นอะไร การเมืองก็เป็นอย่างนี้ เราก็ทำหน้าที่อย่างเห็นได้ในการช่วยเหลือประชาชน แต่การเมืองมันเปลี่ยนและคิดว่าในอนาคตถ้าพรรคการเมืองจะทำการเมืองก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน การเมืองแบบเก่ามากเกินไปก็ไปยาก มันจะต้องผสมผสานระหว่างคนทุกรุ่นเข้าด้วยกันซึ่งอาจจะต้องปรับเปลี่ยนใหม่
“จะเห็นได้ว่า ส.ส. ที่ใกล้ชิดประชาชน ไปงานบวช การศพ งานแต่ง หรืองานอะไรต่างๆช่วยเหลือประชาชนในยามทุกข์ยาก ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะได้รับการเลือกตั้ง แต่วันนี้คนส่วนใหญ่เลือกพรรค อย่างพรรคก้าวไกลคนก็เลือกพรรคแต่ละพื้นที่ก็เข้ามาเยอะ ซึ่งก็ไม่มีปัญหา”
อีกทั้งเมื่อถามว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีการพูดคุยกับแกนนำหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่14 พ.ค.ได้มีการคุยกันและประเมินสถานการณ์ แล้ววันนี้กรรมการบริหารโดยหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค คงคุยกันอยู่ว่าจะอย่างไร เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการเปรยว่าจะยังเป็นสมาชิกพรรค และประธานยุทธศาสตร์พรรคฯ ต่อไปหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า อันนี้ไม่แน่ใจ แต่จริงๆ แล้วถ้าถามตน ถ้าการเมืองเป็นแบบนี้ ตนอยากให้ท่านมีความสุขในการใช้ชีวิต เพราะท่านทำมาเพื่อคนทั้งประเทศเยอะมากแล้ว
