- หลังผู้นำไฟเขียวแผนดำเนินงานเข้าเป็นสมาชิก
- จากปัจจุบันเป็นแค่สมาชิกสังเกตการณ์ตั้งแต่เดือนพ.ย.65
- พาณิชย์ชี้ถ้าสำเร็จอาเซียนเป็นฐานผลิตและตลาดใหญ่ขึ้น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.66 ที่ประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 42 ได้รับรองแผนการดำเนินงานของติมอร์-เลสเต ในการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ จากการเป็นสมาชิกสังเกตการณ์มาตั้งแต่เดือนพ.ย.65 ซึ่งประกอบด้วย แผนงาน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคมและวัฒนธรรม โดยด้านเศรษฐกิจกำหนดให้ติมอร์ต้องเข้าร่วมความตกลงที่สำคัญ 66 ฉบับ เช่น ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน ความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน ความตกลงว่าด้วยการลงทุนของอาเซียน ฯลฯ จึงจะได้รับสถานะสมาชิกโดยสมบูรณ์ และจะต้องทยอยเข้าร่วมความตกลงอื่นๆ ภายใน 2 ปี รวมทั้งเจรจาเพื่อเข้าร่วมความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ของอาเซียนกับคู่เจรจา ภายใน 5 ปี หลังจากเป็นสมาชิกสมบูรณ์แล้ว
“หากติมอร์ เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างสมบูรณ์ จะทำให้อาเซียนเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ขึ้น การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคจะกว้างมากขึ้น และขนาดตลาดจะเพิ่มขึ้นถึง 673.8 ล้านคน สำหรับการค้า ไทยจะได้ประโยชน์ด้านการลดและยกเลิกภาษี ซึ่งติมอร์ แม้เป็นตลาดเล็ก แต่เศรษฐกิจกำลังเติบโต มีความต้องการนำเข้าสินค้าจากไทยหลายรายการ เช่น ข้าว อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องดื่ม”
นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างมาก เช่น ก่อสร้างถนน อีกทั้งธุรกิจการท่องเที่ยว ได้รับการส่งเสริมอย่างเต็มที่ ภายใต้นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Growing Tourism to 2030) ที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 200,000 คนต่อปี ภายในปี 73 ซึ่งถือเป็นโอกาสอย่างมากของไทย เพราะเป็นสาขาที่ไทยมีศักยภาพมากเข้าไปลงทุนเพิ่มเติม นอกเหนือจากการลงทุนที่มีอยู่แล้วในสาขาร้านอาหาร บริการสปา นวดแผนไทย และร้านขายอะไหล่รถยนต์
