ตลาดหุ้นสหรัฐฯเก็งผลประกอบการ-วิตกไวรัสโคโรนา ดาวโจนส์บวก แนสแด็ก-เอสแอนด์พี500 ติดลบ



  • นักลงทุนติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
  • ขณะที่มีแรงการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 4 หนุน
  • จับตาการตัดสินใจดอกเบี้ยเฟดหลังประชุมจบคืนนี้

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 28,761.27 จุด บวกเพิ่มขึ้น 38.42 จุด +0.13% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 9,259.03 จุด ติดลบ 10.65 จุด หรือ -0.11% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 3,273.44 จุด ลดลง 2.80 จุด หรือ -0.09%

แม้จะยังคงวิตกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ที่ขยายวงกว้างมากขึ้น และในขณะนี้คาดกันว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนมากกกว่าในสมัยที่เกิดการระบาดของโรคซาร์ส ก็ตาม แต่นักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเข้าซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทในตลาด โดยในขณะนี้ ผลประกอบการส่วนใหญ่ของไตรมาสที่ 4 ยังออกมาในทิศทางที่ดีกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ บริษัทเกือบ 25% ในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 4 แล้ว ซึ่ง 72% ในจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

โดยในช่วงเปิดตลาด ราคาหุนแอปเปิล ยังคงบวกต่อเนื่องกว่า 2.12% ขณะที่บริษัทจีอี อิเลกทริก ทยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 7.24% ส่วนหุ้นซิตี้แบงก์ กูเกิ้ล และไมโครซอฟท์ ทะยานกว่า 1% อย่างไรก็ตาม หลังเปิดตลาดระยะหนึ่งเริ่มมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา ทำให้เปอร์เซนต์การบวกของหุ้นปรับลดลง

ขณะที่บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานตัวเลขกำไรประจำไตรมาส 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ แมคโดนัลด์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.97 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.96 ดอลลาร์/หุ้น ขณะเดียวกัน ยอดขายของบริษัทมีการขยายตัว 5.9% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.2%

ทั้งนี้ วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจะมีผลกาตัดสินใจดอกเบี้ยนโยบายในช่วงเย็น ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ในการคงอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่รายงานออกมา สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองพุ่งขึ้น 7.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น 8% และทะยานขึ้น 146% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วส่วนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 5% และพุ่งขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว