ดาวโจนส์ปิดพุ่งแรง 512 จุด เฟดคงดอกเบี้ยส่งสัญญาณวงจรขาขึ้นจบแล้ว

NEW YORK CITY - September 3: Charging Bull sculpture with people on September 3, 2015 in New York City. The sculpture is both a popular tourist destination, as well as "one of the most iconic images of New York".


ดาวโจนส์ปิดพุ่งแรง 512 จุด เฟดคงดอกเบี้ยส่งสัญญาณวงจรขาขึ้นจบแล้ว ซึ่งเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะไม่สร้างความผิดพลาด

  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50%
  • นักลงทุนเฮ ประธานเฟด ระบุอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกแล้วในรอบนี้
  • เงินเฟ้อชะลอต่อเนื่อง ดัชนีราคาผู้ผลิตทั่วไป (PPI) ปรับตัวขึ้น 0.9%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับมาคึกคัก นักลงทุนแห่ซื้อหุ้น ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมปิดที่ 37,090.24 จุด เพิ่มขึ้น 512.30 จุด หรือ +1.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,707.09 จุด เพิ่มขึ้น 63.39 จุด หรือ +1.37% ส่วนดัชนัแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,733.96 จุด เพิ่มขึ้น 200.57 จุด หรือ +1.38% มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวแรง หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

นอกจากนั้น การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดยังส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในการประชุมเดือนก.ย. พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 4 ครั้งในปี 2568 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.00% และในปี 2569 เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดลดลงสู่ช่วง 2.00-2.25% ซึ่งใกล้กับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ระดับ 2.50% ขณะเดียวกัน เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐลงสู่ระดับ 3.2% ในปี 2566 จากเดิมที่ระดับ 3.7% และคาดว่าอยู่ที่ 2.4%, 2.2% และ 2.0% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “เฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก และเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะไม่สร้างความผิดพลาดด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเกินไป”

นักวิเคราะห์จากบริษัท Bolvin Wealth Management Group กล่าวว่า “นักลงทุนขานรับเฟดที่ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ผลการประชุมเฟดครั้งนี้เหมือนเป็นการมอบของขวัญวันหยุดล่วงหน้าให้กับตลาด และนับเป็นครั้งแรกที่เฟดมีมุมมองบวกว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอตัวลง ซึ่งทำให้เราคาดว่าภาวะ “Santa Claus Rally” จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

หุ้นทุกกลุ่มปิดแดนบวก หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 3% ขณะที่ดัชนี Russell 2000 Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนต่ำ พุ่งขึ้น 3.5%

อย่างไรก็ดี หุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 6.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรและรายได้ในปี 2567 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากการชะลอตัวลงของอุปสงค์ยาและวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19

ด้านเงินเฟ้อส่งสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่องเช่นกัน และเป็นปัจจัยบวกให้เฟดคงดอกเบี้ย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตทั่วไป (Headline PPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0% จากระดับ 1.2% ในเดือนต.ค.

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.2% จากระดับ 2.3% ในเดือนต.ค.