ตลาดหุ้นสหรัฐส่งสัญญาณสับสนดัชนีดาวโจนส์ ยืนบวกเล็กน้อย



  • นักลงทุนยังคงกังวลกับการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจ
  • การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 20,236,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2545
  • ตลาดมีความหวังการทยอยเปิดเมืองช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง

เมื่อเวลา 21.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 23,964.71 จุด เพิ่มขึ้น 81.62 จุดหรือ +0.34% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 8,900.73 จุด เพิ่มขึ้น 91.61 จุด หรือ +1.04% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 2,882.64 จุด เพิ่มขึ้น 14.20 จุด หรือ0.44% โดยดัชนีพลิกขึ้นลงในแดนบวกตลอดชั่วโมงแรกของการทำการ โดยตลาดยังส่งสัญญาณที่สับสน และไร้ทิศทางชัดเจน ท่ามกลางความกังวลของการระบาดของโควิด-19

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 20,236,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นภาวะการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลในปี 2545 แต่ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 22,000,000 ตำแหน่ง หลังจากลดลง 149,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.

การดิ่งลงของตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก นอกจากนั้น การจ้างงานในภาคบริการลดลงมากกว่า 16 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ส่วนการจ้างงานในภาคการผลิตลดลง 4.3 ล้านตำแหน่ง

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 21.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 16%

อย่างไรก็ตาม การเริ่มเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งในหลายๆ เมือง ทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองเพื่อเก็งกำไร

นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า รัฐนิวยอร์กจะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยจะมีการเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศว่าธุรกิจค้าปลีกบางส่วนกลับมาเปิดบริการอีกครั้งในสัปดาห์นี้

ขณะที่นายเจย์ อินสลีย์ ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน ประกาศแผน Safe Start ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐวอชิงตันสามารถทยอยเปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้ง นอกจากนี้ รัฐอลาสกา, จอร์เจีย, เซาธ์ แคโรไลนา, เทนเนสซี และเท็กซัส ก็ได้เริ่มให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการแก่ลูกค้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 4.17 ดอลลาร์ หรือ 20.5% ปิดที่ 24.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ปีนี้ นักลงทุนมีความหวังที่ว่า อุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการปรับลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้