ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ดาวโจนส์ เปิดตลาด ติดลบ สับสนสถานการณ์ตะวันออกกลาง

  • นักลงทุนบางส่วนเริ่มหันมาซื้อ หลังเอสแอนด์พีเชื่อไม่เกิดสงครามเต็มรูปแบบ
  • ด้านตลาดส่วนใหญ่ยังคงกังวลสถานการณ์ตะวันออกกลางกระทบการเมืองสหรัฐฯ
  • ด้านตัวเลขเศรษฐกิจขาดดุลการค้าสหรัฐลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

เมื่อเวลาประมาณ 22.20น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 28,631.75 จุด ลดลง 71.63 จุด หรือ-0.25% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,238.21 จุด ลดลง 8.07 จุด หรือ -0.25%ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 9,073.43จุด เพิ่มขึ้น 1.97 จุด หรือ +0.02%

นักลงทุนเริ่มคลายกังวล โดยคาดว่าความตึงเครียดในตะวันออกลางจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น โดยเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้ง สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ แถลงมุมมองในวันนี้ว่า การที่สหรัฐสังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่านจะไม่ทำให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างสหรัฐและอิหร่าน

“เรายังคงเชื่อว่าความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจะยังคงมีผลกระทบที่จำกัด โดยจะส่งผลทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และทางการเมือง ซึ่งจะสร้างภาวะไร้เสถียรภาพในภูมิภาค และกระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุน” แถลงการณ์ระบุ

ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมนีจะพบปะกันที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้เพื่อหารือกันเกี่ยวกับอิหร่าน จากการที่อิหร่านตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้ในปี 2558 หลังจากที่กองทัพสหรัฐสังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่าน รวมทั้งหาแนวทางในการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่าน โดยรัฐมนตรีต่างประเทศทั้ง 28 ประเทศของสหภาพยุโรป (EU) จะจัดการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ในวันศุกร์นี้เพื่อหารือวิกฤตการณ์อิหร่าน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐ หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะลงคะแนนเสียงในสัปดาห์นี้ต่อญัตติจำกัดอำนาจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่าน โดยในช่วงที่ผ่านมา สมาชิกพรรคเดโมแครตต่างแสดงความไม่พอใจ เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้แจ้งต่อรัฐสภา และไม่ได้ขออนุมัติก่อนที่จะใช้ปฎิบัติการทางทหารโจมตีท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรัก จ

นางเพโลซี กล่าวว่า มาตรการยั่วยุของรัฐบาลปธน.ทรัมป์ได้ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐ, นักการทูต และชาวอเมริกันตกอยู่ในอันตราย ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับอิหร่าน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่าญัตติจำกัดอำนาจของปธน.ทรัมป์ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่านจะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แต่ก็จะเผชิญความไม่แน่นอนในวุฒิสภา ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก

ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาในทิศทางที่ดี โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยดิ่งลง 8.2% สู่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.38 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 4.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.โดยตัวเลขขาดดุลการค้ากับจีนลดลง 15.7% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 2.64 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่สหรัฐส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้น 1.4 พันล้านดอลลาร์ และนำเข้าลดลง 800 ล้านดอลลาร์