ตร.แจงฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาใส่ “ม็อบคณะราษฎร” หลังปะทะ ไม่ใช่สลายการชุมนุม



  • การ์ดม็อบราษฎรหน้ารัฐสภา บุกตัดลวด-ปาถุงสี-พลุควันสี
  • ทำตามข้อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ เหตุชุมนุมผิดกฎหมาย

วันนี้ (17พ.ย.) ที่บริเวณหน้ารัฐสภาเกียกกาย ถนนสามเสน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแท่งปูนแบริเออร์ ลวดหนาม พร้อมเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังอย่างเข้มงวด พร้อมมีรถฉีดน้ำแรงดันสูงมาจอดไว้ใกล้กับแนวแบริเออร์ เพื่อป้องให้ไม่ให้กลุ่มราษฎรขยับเข้าใกล้รัฐสภา

ขณะที่บรรยากาศล่าสุดเมื่อประมาณ การ์ดกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มมีการใช้คีมตัดลวดหนาม ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้หยุดการกระทำ และมีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย

ก่อนที่จะมีการเจรจาย่อยถึง 3 ครั้ง ก่อนทางเจ้าหน้าที่จะสั่งการให้นำรถน้ำเข้ามาประชิดแนวกั้น พร้อมประกาศเตือนห้ามกลุ่มผู้ชุมนุมตัดลวดหนาม และประกาศเตรียมฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาภายใน 5 นาที

ด้านทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังมีการเข้ามาตัดอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงมีการฉีดน้ำออกไปประมาณ 5-6 ชุด ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมก็มีการปาถุงน้ำผสมสีน้ำเงิน และควันสีต่างๆ ข้ามแนวกั้นมาทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้รถน้ำถอยจากแนวกั้น และมีการขอเจรจากับทางหัวหน้าการ์ดกลุ่มราษฎร โดย พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) ในขณะที่ตัวแทนฝั่งผู้ชุมนุมเป็นทาง โตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้าทีมการ์ดอาสา

ต่อมาได้มีประกาศจากเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้สื่อสารกับผู้ชุมนุมผ่านเครื่องขยายเสียงระบุว่า ให้หยุดการกระทำและทางเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการมากกว่านี้ ก่อนเตือนว่าหากยังไม่หยุดจะมีการใช้กระสุนยาง

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมยังมีการขว้างปาขวดน้ำและพลุควันสีเข้ามาในแนวกั้นของตำรวจ จึงได้มีการใช้แก๊สน้ำตายิงเพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้ เจ้าหน้าตำรวจกำลังนำรถน้ำเข้ามาหน้าบริเวรรัฐสภา เพื่อเติมน้ำให้กับรถฉีดน้ำจีโน่ด้วย

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า วันนี้มีกลุ่มที่จะมาชุมนุมทั้งสิ้น 4 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1-3 มีการแจ้งว่าจะมีการชุมนุม และจะยุติเวลา 14.00 น. ส่วนอีก 2 กลุ่ม ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะชุมนุมหน้าบริเวณรัฐสภาโดยมีเงื่อนไขคือ การชุมนุมจะทำโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ลงถนน ไม่ละเมิดสิทธิ์คนอื่น โดยจะต้องมีการยุติการชุมนุม เวลา 22.00 น.ของพรุ่งนี้ และ 24.00 น. ของพรุ่งนี้ ส่วนกลุ่มคณะราษฎร ไม่ได้มีการแจ้งการชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ไว้

ดังนั้น การชุมนุมจึงผิดเงื่อนไข และเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยหลังจากที่กลุ่มคณะราษฎร ได้เคลื่อนตัวมาบริเวณหน้าแนวกำบังของเจ้าหน้าที่ที่มีการติดตั้งแบริเออร์ ซึ่งตามกฎหมายระบุว่า ไม่สามารถเข้ามาในเขต 50 เมตรจากรัฐสภาได้ ผู้ชุมนุมจึงได้เริ่มทำการทำลายสิ่งกีดขวาง และเจ้าหน้าที่ได้มีการเจรจา ประกาศ และแจ้งเตือนแล้ว ว่าการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรนั้นผิดกฎหมาย การทำลายสิ่งกีดกั้นก็ผิดกฎหมายโดยสิ้นเชิง ทางเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งเตือนแล้ว 3-4 ครั้ง กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่หยุดทำลายสิ่งกีดกั้น

ทำให้ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการฉีดน้ำ โดยครั้งแรกเป็นการฉีดน้ำเปล่า ไม่ได้ผสมแก๊สน้ำตาแต่อย่างใด ผู้ชุมนุมก็ยังไม่หยุดทำลายสิ่งกีดกั้น เจ้าหน้าที่จึงฉีดน้ำตามยุทธวิธีของตำรวจ ขอนำเรียนว่าครั้งที่ 4 เป็นการฉีดที่มีการผสมแก๊สน้ำตาอย่างที่เห็นอยู่

“การปฏิบัติการของตำรวจนั้น ไม่ใช่การสลายการชุมนุม แต่เป็นการเจรจา และเป็นการบังคับใช้กฎหมายตามปกติ”

เมื่อถามว่าจะมีการใช้แก๊สน้ำตาต่อไปเรื่อยๆ หรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เรากำลังดำเนินการเจรจาตามขั้นตอนอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ควบคุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้น ด้านหลังได้เริ่มมีการปะทะกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมก็ตอบโต้ด้วยการขว้างพลุควันสีมายังเจ้าหน้าที่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะมีการใช้กระสุนยางควบคุมการชุมนุมจริงหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า อุปกรณ์การควบคุมฝูงชนเป็นเรื่องปกติ ต้องรอดูตามหน้างาน