“ดีอีเอส” หารือเฟซบุ๊กร่วมขับเคลื่อนดิจิทัลไทย 4 ด้าน



  • “พุทธิพงษ์” บุก “ซิลิคอน วัลเล่ย์”​ พบผู้บริหารเฟซบุ๊ก สำนักงานใหญ่
  • ถกความร่วมมือขับเคลื่อนดิจิทัลไทย
  • แลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกัน 4 ด้าน


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ในโอกาสนำคณะผู้บริหารกระทรวง และหน่วยงานในสังกัด เดินทางมาโรดโชว์หารือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลของโลก ที่ซิลิคอน วัลเล่ย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้มีการเข้าหารือความร่วมมือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เฟซบุ๊ก ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์รายใหญ่สุดของโลก ในเกีประเด็นต่างๆ ที่ประเทศไทยได้เคยเสนอในเชิงลึก ตลอดจนแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ เพื่อร่วมกันทำงานขับเคลื่อนใน 4 ด้าน ดังนี้

  1. ด้านความเป็นส่วนตัว (Privacy) เพื่อความร่วมมือระหว่างเฟซบุ๊ก และกระทรวงฯ ในการสร้างความตระหนักให้ประชาชน มีความรู้ความเข้าใจเรื่อง privacy ของตนเอง จะทําอย่างไรให้ปลอดภัยในโลกออนไลน์ และให้ความรู้กับธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ในเรื่องขบวนการขั้นตอนที่จําเป็น
  2. ด้านความมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในทุกภาคส่วน เน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยผู้พิการทั้งทางสายตา การได้ยิน และทางร่างกาย รวมถึงผู้ที่มีความยากลําบากในการเรียนรู้ ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ที่ผ่านมีมีหลายโครงการประสบความสําเร็จเป็นอย่างสูง และอยู่ระหว่างการขยายผล อีกทั้งมีแนวคิดในการร่วมกันจัดการแข่งขันในรูปแบบ hackathon เพื่อประดิษฐ์เทคโนโลยีสำหรับช่วยเหลือคนพิการ
  3. ด้านประสบการณ์เชิงพาณิชย์ โดยมีแนวทางในการทํางานร่วมกัน เช่น เรื่องการเก็บภาษีจากเฟซบุ๊ก สําหรับการซื้อขายโฆษณาในประเทศไทย การควบคุมสินค้าปลอมหรือไม่ถูกกฎหมายที่ขายผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก เป็นต้น
  4. ด้านข่าวปลอม (เฟกนิวส์) โดยได้หารือแนวทางความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาข่าวปลอมกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมบนเฟซบุ๊ก รวมถึงการสร้างขั้นตอนในการทํางานร่วมกันอย่างชัดเจน และ timeline ของกระบวนการแจ้งลบบัญชีผู้ใช้งานปลอมหรือข้อมูลเท็จได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถอธิบายให้ประชาชนรับทราบได้

    “ระหว่างการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ครั้งนี้ ผู้บริหารเฟซบุ๊ก ยังให้ข้อมูลกับผมว่าแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ (Market Place) ของเฟซบุ๊กนั้น ได้รับแรงบันดาลจากคนไทย เนื่องจากคนไทยใช้เฟซบุ๊ก ในการขายของเป็นจํานวนมาก และเป็นชาติที่มีวิธีที่น่าสนใจและแปลกใหม่ในการประยุกต์ใช้โซเชียลมีเดีย ในการขายของออนไลน์”

    นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ทในระหว่างการโรดโชว์ที่ซิลิคอน วัลเล่ย์ ยังได้พบกับกลุ่มคนไทยที่ทํางานในบริษัท เฟซบุ๊ก และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford) โดยกล่าวฝากข้อความไว้ว่า หากมีโอกาสขอให้กลับมาช่วยประเทศไทย เนื่องจากเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดน่าสนใจ เป็นอีกหนึ่งความหวังของประเทศ เพราะนอกจากมีความสามารถแล้ว ยังได้มีโอกาสอยู่ในสภาพแวดล้อมของเทคโนโลยี และเครือข่ายระดับโลก

“คนเหล่านี้มีศักยภาพสูงมาก หากได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมและมีโอกาส จะใช้ความสามารถที่มีอยู่สร้างประโยชน์ ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศได้เป็นอย่างมาก”