- ดีพร้อมผนึกสสส. ต่อยอดโปรเจกต์ SHAP เฟส 3 หนุนธุรกิจ SMEs ทั่วไทย ร่วมสร้างองค์กรแห่งความสุข
- เพิ่มผลิตภาพครบทุกมิติ ดัชนีความสุขแรงงานพุ่ง 64.37 %
- ปี’65 คัดวิสาหกิจต้นแบบคว้ารางวัล 37 ราย รักษาจีดีพี 1.67 หมื่นล้านบาท ดูแลการจ้างงานไว้ให้ 17 ล้านคน
นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ “ดีพร้อม” เปิดเผยว่า นำดีพร้อมจับมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เดินหน้า โครงการส่งเสริมสุขภาวะองค์กรในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ “SHAP” เฟสที่ 3 สนับสนุนธุรกิจ SMEs สร้างองค์กรแห่งความสุข Happy Workplace สามารถเพิ่มผลิตภาพการเติบโตเพิ่มขึ้นได้ทุกมิติ พร้อมกับได้รับรางวัลวิสาหกิจต้นแบบ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้ประกอบการทั่วรประเทศ 37 ราย หลังจากสำรวจแล้วพบโครงการนี้สร้างความสุขเพิ่มขึ้นทุกมิติ 64.37 %vคิดเป็นมูลค่ารวมได้กว่า 64 ล้านบาท
ขณะนี้ธุรกิจ SMEs ของไทยมีมากถึง 99.57 % ของวิสาหกิจทั้งประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศณาฐกิจประเทศ ซึ่งสามารถผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของ SMEs มูลค่ามากถึง 16,178,719 ล้านบาท คิดเป็น 34.6 % ของ GDP และกระจายจ้างงานทั่วประเทศ 17,536,336 คน คิดเป็น 71.86 %
ดังนั้นการให้ความสำคัญเรื่องการทำงานอย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีจะส่งผลดีโดยรวมต่อการเพิ่มผลิตภาพ ทั้งด้านคุณภาพสินค้า การบริการ การลดความสูญเสียต่างๆ และต้นทุนลดลงได้ สามารถขนส่งสินค้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตามกำหนด สร้างความปลอดภัยในการทำงานได้มากยิ่งขึ้น ยังรักษาพนักงานคุณภาพ ลดจำนวนคนลาออกช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ด้วย
ดังนั้น ดีพร้อมจึงร่วมกับ สสส.ทำโครงการ SHAP ขึ้น เน้นพัฒนา Happy Workplace การสร้างผลิตภาพที่ยั่งยืนทำให้เป็นองค์กรที่มีความสามารถแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น
ปี 2565 ได้ประกาศผลเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผู้ประกอบการ SMEs 37 ราย สร้างผลงานจนสามารถคว้ารางวัลวิสาหกิจต้นแบบโครงการ SHAP ประจำปี 2564 ภายใต้โครงการส่งเสริมสุขภาวะองค์กรในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจากกระทรวงอุตสาหกรรม
สำหรับ โครงการส่งเสริมสุขภาวะองค์กรในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เริ่มทำเฟส 1 ปี 2563 ปัจจุบันทำต่อเนื่องเฟส 3 มี SMEs เข้าร่วมโครงการแล้ว 80 แห่ง คณะทำงานสร้างสุของค์กร 1,132 คน และมีกิจกรรมสร้างสุข1,152 กิจกรรม
ความสำเร็จของโครงการ SHAP คือสามารถสร้างความสุขให้บุคลากรธุรกิจ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการได้ เช่นรณรงค์จนเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ 107 คน ลดค่าใช้จ่ายได้ 1,457,100 บาท เลิกสูบบุหรี่ได้ 53 คน ลดค่าใช้จ่ายได้ 958,600 บาท ส่วนกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษามีพนักงานวิสาหกิจเข้าร่วม 4,317 คน ช่วยลดค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 8.55 ล้านบาท
นายภาสกร กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลและร่วมประเมินผล พบว่าค่าความสุข(HAPPINOMETER) ครอบคลุม 8 มิติ เปรียบเทียบก่อนทำดำโครงการ SHAP มีค่าความสุขอยู่ที่ 59.14 % หลังmeโครงการ ค่าเฉลี่ยความสุขเพิ่มมากขึ้นไปอยู่ที่ 64.37 % เพิ่มขึ้น 5.23 % ซึ่งส่งผลให้การพัฒนาผลิตภาพ ทั้งมิติด้านคุณภาพ ต้นทุน การส่งมอบ ความปลอดภัยในการทำงาน ขวัญและกำลังใจของพนักงาน การจัดการสิ่งแวดล้อมจริยธรรมในการทำงาน โดยมีผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่าเงินรวมกว่า 64 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นผลมาจากบุคลากร SMEs ได้ ลด ละ เลิก ในสิ่งไม่จำเป็นดังกล่าว สุขภาพของผู้เข้าร่วมโครงการดีขึ้น มีค่า BMI ดีขึ้น 1,448 คน รวมทั้งได้ส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารได้ 8,668 กิโลกรัม สร้างสวัสดิการต่าง ๆ ในกิจกรรม Happy Work life ได้อีก 10,823,643 บาท ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม Happy Society มูลค่า 8,173,450 บาท พนักงานบริจาคโลหิต 1,313 คน ได้โลหิตรวมกว่า 459,503 ซีซี. และส่งเสริมการออมด้วยกิจกรรม Happy money ซึ่งทำให้พนักงานออมเงินได้แล้วถึง 21.2 ล้านบาท
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
