นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและสนับสนุน ที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นครั้งแรกของปีนี้ ได้พิจารณาดิจิทัลสตาร์ทอัพ ที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุน โดยการพิจารณาให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของการบริการในครอบคลุมเทคโนโลยีเป้าหมายของประเทศ ได้แก่ EdTech FinTech HealthTech และ Data Platform โดยการพิจารณาครั้งนี้มีการพิจารณาโครงการที่สมัครเข้าข้อรับการส่งเสริมรวมกว่า 60 ราย โดยคณะทำงานซึ่งไม่ได้มีแค่ดีป้าเท่านั้น ได้ร่วมพิจารณาถึงความยั่งยืนของบริการและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนไทยทั่วประเทศเป็นหลัก ซึ่งมี 8 รายที่ผ่านการพิจารณา รวมงบประมาณส่งเสริมไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท โดยคาดว่าสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 328 ล้านบาท
“สถานการณ์โควิด-19 ระบาดนี้ทำให้เกิดผลกระทบไปทั่วโลกไม่เว้นแต่ประเทศไทยเอง ถึงแม้ระยะเวลาในการระบาดจะกินเวลานานอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านพฤติกรรมต่าง ๆ จนทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทอย่างเห็นได้ชัด โดยตามภารกิจของดีป้าที่ส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลจึงเห็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาบริการดิจิทัลของคนไทยเพื่อคนไทยถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ” ผอ.ใหญ่ดีป้า กล่าวเสริม
สำหรับโครงการที่ผ่านการพิจารณาในครั้งนี้ทั้งสิ้น 8 ราย ประกอบด้วย
• สาขาเทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech)
o คูแลป (KULAP) โดย บริษัท ซาโตชิ จำกัด: แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ตัวกลางบนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)
o Radars Point โดย บริษัท ก่อ จำกัด: แพลตฟอร์ม Micro-Investment ที่สามารถสะสมทุกคะแนนจากการช๊อปปิ้งออนไลน์ และแต้มสามารถมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้จากการนำไปลงทุน
• สาขาเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech)
o ThaiHand Massage Point of Sale System (POS) โดย บริษัท ไทยแฮนด์ มาสสาจ จำกัด: แพลตฟอร์มช่วยบริหารจัดการธุริกจให้เจ้าของร้านนวดและสปาบริหารจัดการข้อมูลภายในร้านอย่างเป็นระบบ
o MATCHDAY โดย บริษัท แมทช์เดย์ ฮับ จำกัด: แพลตฟอร์มบริหารสถานบริการแบบครบวงจร และแอปพลิเคชันเพื่อผู้เล่นหรือผู้ใช้งานสำหรับการค้นหาและจอง ตามวันเวลาที่ต้องการ
• สาขาเทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech)
oFellowie ตลาดงานออนไลน์ผ่านวีดีโอคอล โดย บริษัท เฟโลวี จำกัด: แพลตฟอร์มจับคู่ผู้ที่ต้องการเรียนรู้กับผู้มีความรู้ความสามารถที่ต้องการหารายได้เสริมออนไลน์
o FutureSkill โดย บริษัท ไลค์ มี เอ๊กซ์ จำกัด: แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ครอบคลุมทุกสาขาวิชาสร้างอาชีพ ต่อยอดทักษะ
o School Bright Grade โดย บริษัท จับจ่าย คอร์ปอเรชั่น จำกัด: แพลตฟอร์มบริหารสถานศึกษาดิจิทัลที่เชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน นักเรียนและผู้ปกครอง
• สาขาการจัดการข้อมูลระบบ (Data Platform)
o ENRES โดย บริษัท เอ็นเนอร์จี้ เรสปอนส์ จำกัด: แพลตฟอร์มจัดการข้อมูลและควบคุมอาคาร โรงงานด้วยเทคโนโลยี IoT และ AI
นอกจากนี้ในปี 2564 ดีป้าตั้งเป้าส่งเสริมดิจิทัลสตาร์ทอัพทั่วประเทศมากกว่า 70 ราย รวมงบประมาณมากกว่า 100 ล้านบาท โดยดีป้ายังมีแผนเตรียมประกาศรับข้อเสนอโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่สนใจขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนจากดีป้าสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook depa Thailand หรือ www.depa.or.th
