ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้นกว่า 100 จุด นักลงทุนคลายแรงกดดันดอกเบี้ยสูง



.มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดต่อเนื่อง หลังมองเฟดจะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อต่ำคาด
.นักลงทุนติดตามผลประกอบการในไตรมาส 3 ของบริษัทยักษ์ใหญ่ค้าปลีกที่จะทยอยประกาศออกมา
. ตลาดจับตาผลการประชุมทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

มื่อเวลาประมาณ 22.15น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,857.35 จุด เพิ่มขึ้น 109.49 จุด หรือ +0.32% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,271.20 จุด ลดลง 52.13 จุด หรือ -0.46% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,982.89 จุด ลดลง 10.04 จุด หรือ-0.25%

ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยยังมีแรงซื้อสะสมหุ้นราคาต่ำเข้ามาต่อเนื่องจากความหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดในเดือนต.ค.

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มค้าปลีกในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ วอลมาร์ท, โฮม ดีโปท์, ทาร์เก็ต, โลว์ส, เมซีส์ และโคห์ลส์

ตลาดจับตาผลการประชุมทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำทั้งสองใช้เวลาเจรจาในการประชุมดังกล่าวเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ก่อนที่การประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ และสิ้นสุดในวันพุธ

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสี ระบุว่า ประเด็นไต้หวันถือเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีน และเป็น “เส้นแดงเส้นแรก” ของความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งสหรัฐจะก้าวข้ามมิได้