ดาวโจนส์ เคลื่อนไหวติดลบใกล้ 200 จุด กังวลความขัดแย้งยูเครนปะทุ



.นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอีกครั้ง หลังรัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามชายแดนยูเครน
.ตลาดจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำเดือน ม.ค.ในวันนี้
.ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 3.8% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,791.11 จุด ลดลง 197.73 จุด หรือ -0.57% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,438.06 จุด ลดลง 33.01 จุด หรือ -0.74% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ระดับ 13,947.49 จุด ลดลง 192.26 จุด หรือ -1.36%

นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอีกครั้งเพื่อลดความเสี่ยง กังวลสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน โดยดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 3% หลังองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เปิดเผยในวันนี้ว่า รัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามชายแดนยูเครน แม้มีรายงานว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนจากบริเวณดังกล่าว

“เรายังไม่เห็นการถอนกำลังทหารของรัสเซีย ซึ่งสิ่งนี้ขัดแย้งกับความพยายามทางการทูตที่จะคลี่คลายวิกฤตการณ์ สิ่งที่เราเห็นก็คือพวกเขาได้เพิ่มจำนวนทหาร ซึ่งทำให้ความตึงเครียดยังไม่ได้ลดน้อยลง การเคลื่อนย้ายทหารและรถถัง ไม่ได้ยืนยันว่ามีการถอนกำลังทหารจริง” นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าว

ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวเตือนเช่นกันว่า รัสเซียยังคงมีกำลังทหารมากกว่า 150,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำเดือน ม.ค.ในวันนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังออกมาดีต่อเนื่อง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 3.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.1% หลังจากดิ่งลง 2.5% ในเดือนธ.ค.และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 13% ในเดือนม.ค.

ยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นในเดือน ม.ค.ได้รับแรงหนุนจากการการเพิ่มขึ้นของยอดซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทะยานขึ้น 14.5%ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร พุ่งขึ้น 4.8% ในเดือนม.ค. หลังจากดิ่งลง 4.0% ในเดือนธ.ค.