ดาวโจนส์ ปรับลดลง 85 จุด แรงขายกลุ่มพลังงาน-ธนาคาร กดดันตลาด



  • นักลงทุนขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารซื้อกลับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
  • จับตาแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
  • ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดรอบ6เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 31 มี.ค.ที่ 32,981.55 จุด ลดลง 85.41 จุด หรือ -0.26% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,972.89 จุด เพิ่มขึ้น 14.34 จุด หรือ +0.36% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,246.87 จุด เพิ่มขึ้น 201.48 จุด หรือ +1.54%

หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นกลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลงกว่า 2% หลังจากคณะกรรมการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.53% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.08% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 0.71% ขณะที่ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.51% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 1.81% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 1.51%

อย่างไรก็ดี นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐย่อตัวลงเมื่อคืนนี้ หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.27% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 1.88% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.69% หุ้นแอมะซอนดอทคอม บวก 1.27% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 0.78%

หุ้นไฟเซอร์ ดีดตัวขึ้น 0.33% หลังจากไฟเซอร์แถลงว่า ผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ในระยะที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับวัยรุ่นที่มีอายุ 12-15 ปี โดยไฟเซอร์จะยื่นข้อมูลใหม่นี้ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในไม่ช้า เพื่อให้เด็กที่อยู่ในวัยดังกล่าวสามารถได้รับวัคซีนก่อนเปิดภาคการศึกษาใหม่

หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาของสหรัฐ ทะยานขึ้น 3.62% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่สูงกว่าคาด และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2564

นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

การว่างงานปรับตัวดีขึ้น ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2563 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 525,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตนม สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ดิ่งลง 10.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน โดยดัชนีปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน เพราะได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้น และสต็อกบ้านที่ลดลง