

.โมเดอร์นา อิงค์ ประกาศผลทดลองวัคซีนเฟส 3 ได้ผลกว่า 94.5% เตรียมขอให้จริง
.นักลงทุนซื้อหุ้นแทบทุกกลุ่ม คาดเศรษฐกิจมีโอกาสฟื้นตัส
.ตลาดรอการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของนาย โจ ไบเดน
เมื่อเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,772.18 จุด เพิ่มขึ้น 292.37 จุด หรือ +0.99% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,868.89 จุด เพิ่มขึ้น 39.61 จุด หรือ +0.33% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,607.60 จุด เพิ่มขึ้น 22.45 จุด หรือ +0.63%
หลังจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ หลังมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จากการที่ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 4%
วันนี้ มีข่าวดีเพิ่มเติม บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากถึง 94.5% และจะเร่งนำมาใช้จริงโดยเร็วที่สุด ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐดีดขึ้นต่อเนื่องในแทบทุกกลุ่ม ยกเว้นกลุ่มเทคโลโลยี และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการทำงานที่บ้านที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
นพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยุติลงในปีหน้า หลังมีรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์
ขณะที่ศาสตราจารย์อูกูร์ ซาฮิน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี กล่าวว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะช่วยให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติภายในช่วงฤดูหนาวของปีหน้า
ศาสตราจารย์ซาฮินยังระบุด้วยว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะสามารถลดการแพร่ระบาดลงได้ถึง 50% ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดต่ำลงอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ตลาดรอการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของนาย โจ ไบเดน โดยในช่วงที่ผ่านมา พรรคเดโมแครตเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่พรรครีพับลิกันเสนอวงเงินเพียง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19