

.นักลงทุนกังวลวิกฤตแบงก์สหรัฐฯ ยังไม่จบ หลังมีข้อมูลลูกค้าแห่ถอนเงินฝากเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์
.ตลาดคาด 3 ธนาคารกลางหลักของโลกเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อในการประชุมเดือน พ.ค.นี้
.นักลงทุนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) คาดทิศทางประชุมเฟด
เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,832.60
จุด ลดลง 42.80 จุด หรือ -0.13% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,939.75 จุด ลดลง 97.46 จุด หรือ-0.81%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,112.68 จุด ลดลง 24.36 จุด หรือ -0.59%
ราคาหุ้นของเจเนอรัล มอเตอร์ (GM), แมคโดนัลด์ คอร์ป และเป๊ปซี่โค ต่างดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ดิ่งลงกว่า 26% หลังธนาคารเปิดเผยว่าลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่าคาดในไตรมาส 1/2566 โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งเริ่มกลับมากังวลเกี่ยวกับวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ว่า อาจจะยังไม่จบง่ายๆ
นอกจากนั้น ตลาดยังกังวลเกี่ยวกับปรับขึ้นต่อเนื่องของอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 2% หลุดระดับ 77 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกที่ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 28 เม.ย. โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้