ดาวโจนส์แกว่งตัวแคบ เคลื่อนไหวลบ 3 จุด รอทิศทางดอกเบี้ย

.นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ที่เริ่มขึ้นวันนี้
.ตลาดจับตาทิศทางการขึ้นดอกเบี้ย และปรับลดขนาดงบดุลอัดฉีดเศรษฐกิจ
. เฟดจะเปิดเผยผลการประชุมเวลา 01.00 น.ของวันที่ 5 พ.ค. ตามเวลาไทย

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,058.24 จุด ลดลงเล็กน้อย 3.26 จุด หรือ -0.01% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,497.49 จุด ลดลง 38.53 จุด หรือ -0.31% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,159.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.35 จุด หรือ +0.10%

ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน แกว่งตัวแคบๆ จับตาภาวะเศรษฐกิจ และการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยนโยายของธนาคารสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทจดทะเบียนกว่าครึ่งหนึ่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกแล้ว โดย 80% ในจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เป็นปัจจัยหนุนดัชนี ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ซึ่งอ่อนไหวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าแกว่งตัวในแดนลบ

ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาสแรก โดยได้แรงหนุนจากการจำหน่ายยาและวัคซีนต้านโควิด-19 โดยมีกำไร 1.62 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.47 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่บริษัทมีรายได้ 2.566 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.386 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านบริษัทพาราเมาท์ โกลบอล เปิดเผยกำไรในไตรมาสแรกสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีกำไร 60 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 51 เซนต์/หุ้น อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 7.33 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 7.38 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 3-4 พ.ค. ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543

ทั้งนี้ เฟดจะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินในเวลา 01.00 น.ของวันที่ 5 พ.ค. ตามเวลาไทย ก่อนที่นายพาวเวลจะจัดการแถลงข่าวในเวลา 01.30 น.

ตลาดการเงินจับตาดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพร้อมกับปรับลดขนาดงบดุล (QuantitativeTightening : QT) ในการประชุมสัปดาห์นี้หรือไม่ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี