

.นักลงทุนจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมา
.ตลาดติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมกานโยบายการเงินเฟด หาทิศทางดอกเบี้ย
.มีแรงเทขาย กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงานลดลง ตามราคาน้ำมันโลกที่ลดลง
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,635.55 จุด เพิ่มขึ้น
89.23 จุด หรือ +0.27% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,165.12 จุด เพิ่มขึ้น 20.16 จุด หรือ +0.18% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,959.04 จุด เพิ่มขึ้น 12.48 จุด หรือ +0.32%
นักลงทุนยังคงซื้อหุ้นในกลุ่มที่ทนทานต่อความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา รวมทั้งทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ตลาดยังจับตารายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันที่ 23 พ.ย. เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดมองว่ายังจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ระบุว่า แม้ว่าเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่กรอบ 3.75-4.00% ในปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับที่เฟดมองว่ามีการคุมเข้มมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งกรอบอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับคุมเข้มอย่างมีประสิทธิภาพคือ 5-7%
ราคาหุ้นพลังงานปรับตัวลงขณะที่ราคาน้ำมันทรุดตัวลงในตลาดโลก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในจีน และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ