ดาวโจนส์แกว่งตัวผันผวน ลดลงกว่า 39 จุด จับตาเงินเฟ้อเดือน พ.ค.



  • นักลงทุนกังวลเงินเฟ้อเดือน พ.ค.พุ่ง ทำเฟดลดแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ จะประกาศดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ในวันพฤหัสฯ
  • ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 6.8% ในปีนี้

เมื่อเวลา 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,590.51 จุด ลดลงเล็กน้อย 39.73 จุด หรือ -0.11% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,903.24 จุด เพิ่มขึ้น 21.52 จุด หรือ +0.16% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,223.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.87 จุด หรือ -0.07%

ราคาหุ้นของบริษัท Fastly ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในสหรัฐ ดีดตัวกลับมา เนื่องจากปัญหาขัดข้องทางเทคนิคจนส่งผลกระทบทำให้เว็บไซต์ข่าวทั่วโลกล่มในวันนี้ ทั้งนี้ Fastly เป็นบริษัทที่ให้บริการ CDN (Content Delivery Network) โดยบริษัทมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลทั่วโลก และมีการถ่ายโอนข้อมูลที่มีความจำเป็นสำหรับการโหลดคอนเทนท์เกี่ยวกับหน้าเว็บเพจ HTML, ไฟล์ javascript รวมทั้งการส่งภาพและวิดีโอ

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Fastly ได้ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ข่าวหลายแห่งทั่วโลก เช่น CNN, BBC, The Guardian, Bloomberg News, The Financial Times, The New York Times และ Le Monde

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ของรัฐบาลอังกฤษ (gov.uk) และเว็บไซต์ของ Amazon.com ก็ประสบปัญหาเช่นกัน รวมทั้งเว็บไซต์ของ Spotify, Twitch และ Reddit ล่าสุด Fastly ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาขัดข้องทางเทคนิคที่ทำให้เว็บไซต์ข่าวทั่วโลกล่มในวันนี้ และขณะนี้เครือข่ายข่าวดังกล่าวได้กลับมาให้บริการอีกครั้งหนึ่ง

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันพฤหัสฯ นี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในเดือนเม.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551

นอกจากนี้ คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 3.0% ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้ หากดัชนียังคงปรับตัวอย่างร้อนแรงในเดือนพ.ค. ก็อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เฟดส่งสัญญาณเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มิ.ย.

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยธนาคารโลกออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในวันนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 5.6% ในปีนี้ สูงกว่าระดับ 4.1% ที่คาดการณ์ในเดือนม.ค.

“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็นการดีดตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 80 ปีจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน”

สำหรับปีหน้า ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 5% ในปีหน้า จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.3% หากประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 6.8% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 3.5% และคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัว 4.2% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 3.6% และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.4% จากเดิมที่ระดับ 3.4%