ดาวโจนส์เพิ่มขึ้นกว่า 290 จุด นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นราคาต่ำ



. นักลงทุนกลับมาช้อนซื้อหุ้นราคาถูก หลังที่ผ่านมาร่วงกว่า 1,00 จุดราคาดิ่งลงแรง
.ตลาดจับตาประธานาธิบดีไบเดน แถลงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
.คาดรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่กลับมาไม่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,224.20 จุด เพิ่มขึ้น
292.04 จุด หรือ +0.84% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,063.21 จุด เพิ่มขึ้น 82.27 จุด หรือ +0.55% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,593.09 จุด เพิ่มขึ้น 25.07 จุด หรือ +0.55%

นักลงทุนกลับมาช้อนซื้อหุ้นราคาถูกเข้าพอร์ต หลังราคาดิ่งลงแรง และดัชนีร่วงลงไปแล้วในช่วงที่ผ่านมากว่า 1,000 จุด โดยหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน และกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ปรับตัวขึ้นเช่นกัน

ตลาดจับตามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนของสหรัฐ หลังจากหลายประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมแถลงต่อชาวอเมริกันในวันนี้เกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลในการสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมกับขอความร่วมมือจากประชาชนในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ท่ามกลางการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐ

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดนจะอนุมัติให้มีการแจกชุดตรวจโควิด-19 แบบ rapid test ฟรีจำนวน 500 ล้านชุดให้แก่ประชาชน เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.2565 และจะจัดส่งบุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพสหรัฐไปยังโรงพยาบาลที่กำลังเผชิญปัญหาในการรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงฤดูหนาวนี้

โดยระบุว่า ขอให้ชาวอเมริกันตระหนักแต่อย่าตระหนกเกี่ยวกับความรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน และจะเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต อย่างไรก็ดี คาดว่าประธานาธิบดีไบเดนจะไม่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้

ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐแล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วน 73% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในสหรัฐ ขณะที่สัดส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาลดลงเหลือเพียง 27% เท่านั้น