ดาวโจนส์เพิ่มขึ้นกว่า 220 จุด จับตาเงินเฟ้อ -เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ



.มีแรงช้อนซื้อหุ้นต่อเนื่อง หลังดัชนีลดลงไปแรงในช่วงก่อนหน้า

.นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชี้แนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ย

.ตลาดติดตามผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ชี้ชะตานโยบายเศรษฐกิจ

เมื่อเวลาประมาณ 22.15น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,624.88 จุด เพิ่มขึ้น
221.66 จุด หรือ +0.68% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,501.01 จุด เพิ่มขึ้น 25.76 จุด หรือ +0.25% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,788.11 จุด เพิิ่มขึ้น 17.56 จุดหรือ +0.47%

ตลาดหุ้นปรับเวลาซื้อขายหุ้นในตลาด เริ่มต้นจากวันนี้ โดยปรับเวลาช้าลง 1 ชั่วโมง หลังจากสิ้นสุดช่วง Daylight Saving Time การปรับเวลาซื้อขายหุ้นดังกล่าวนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565-13 มีนาคม 2566

ราคาหุ้นบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังสื่อรายงานว่า บริษัทจะเริ่มทำการปลดพนักงานจำนวนมากในสัปดาห์นี้ หรืออย่างเร็วที่สุดในวันพุธนี้ ทั้งรนี้ การประกาศปลดพนักงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เมตาเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 ขณะที่ธุรกิจเมตาเวิร์สขาดทุนอย่างหนักนับตั้งแต่ต้นปีนี้

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ซึ่งหากดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ก็อาจผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ตลาดจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะชี้ชะตาทิศทางการเมืองสหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567 โดยถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยจะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง รวมทั้งเก้าอี้ในวุฒิสภาจำนวน 35 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก

นักวิเคราะห์ระบุว่า หุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะพุ่งขึ้น หากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากทางพรรคมีนโยบายสนับสนุนการขุดเจาะหาแหล่งพลังงานและวางท่อส่งก๊าซและน้ำมันในสหรัฐ

นอกจากนี้ คาดว่าหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพจะดีดตัวขึ้นขานรับชัยชนะของพรรครีพับลิกันเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทในกลุ่มดังกล่าวถูกกดดันจากการที่พรรคเดโมแครตผลักดันการออกกฎหมายควบคุมราคายาตามใบสั่งแพทย์