. นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)
.ตลาดมีแรงซื้อหุ้นเข้ามาเพื่อเก็งกำไร ตัวเลขผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน สัปดาห์นี้
. สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งทรงตัวในเดือนพ.ค.ขณะที่ ยอดขายในภาคค้าส่งลดลง 0.2%
เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,838.85 จุด เพิ่มขึ้น
103.97 จุด หรือ +0.31% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,644.69 จุด ลดลง 16.02 จุด หรือ -0.12% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,396.55 จุด ลดลง 2.40 จุด หือ -0.05%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผันผวน โดยดีดขึ้นแรงในช่วงแรก ก่อนลดช่วงบวกลงมาก นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งติดตามทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนกว่านี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.052% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.060%
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ยังคงไม่ชัดเจน แต่เริ่มเห็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน ทั้งนี้ วันนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งทรงตัวในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.1% หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือนเมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนพ.ค.
ยอดขายในภาคค้าส่งลดลง 0.2% หลังจากทรงตัวในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.41 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก เพิ่มขึ้นจาก 1.40 เดือนในเม.ย.
