ดาวโจนส์เปิดบวกแรงนักลงทุนซื้อติดกัน เป็นวันที่ 3 ขานรับมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ

  • ตลาดรอความหวังสภาผู้แทนฯอนุมัติมาตรการ 2 ล้านล้านดอลลาร์พรุ่งนี้
  • เฟดยืนยันทำเต็มที่เพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจในแข็งแกร่งในอนาคต
  • เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 4 โต 2.1% ขณะที่ทั้งปี 62 โตแค่ 2.3%

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 22,080.02 จุด พุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพิ่มขึ้น 879.47 / +4.15% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 2,565.52 จุด เพิ่มขึ้น 89.96 จุด หรือ +3.63% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 7,605.59 จุด เพิ่มขึ้น 221.29 จุด +3.00%

นักลงทุนยังคงซื้อหุ้นต่อเนื่อง หลังจากวุฒิสภาลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 96-0 เสียง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะลงมติร่างกฎหมายเดียวกันในวันพรุ่งนี้ โดยหากได้รับมติเห็นชอบ มาตรการดังกล่าวจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่มีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์

โดยมาตรการนี้ ประกอบด้วยการจัดสรรวงเงินกู้ 3.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับธุรกิจขนาดเล็ก และสนับสนุนโครงการที่จะจัดสรรเงินให้แก่กระทรวงการคลังในวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ รวมทั้งการแจกเงินให้ชาวอเมริกัน โดยผู้ใหญ่จะได้รับเงินสดโดยตรงคนละ 1,200 ดอลลาร์ ขณะที่เด็กจะได้รับเช็คเงินสดคนละ 500 ดอลลาร์ ส่วนโรงพยาบาลต่างๆจะได้รับการจัดสรรเงินรวม 1.50 แสนล้านดอลลาร์ และธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับเงินช่วยเหลือในวงเงินรวม 3.67 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้ หากได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อชาวอเมริกันว่า เฟดกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้ความช่วยเหลือพวกเขา “เฟดกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสนับสนุนพวกคุณ และนโยบายของเราจะมีความสำคัญมาก ในช่วงเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น เพื่อให้การฟื้นตัวมีความแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน มันไม่ใช่ช่วงขาลงแบบที่เราเคยเห็นกัน และการที่เราขอร้องให้ประชาชนงดเว้นจากการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ก็ถือเป็นการลงทุนในด้านสาธารณสุข เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนซึ่งจะสร้างความมีเสถียรภาพในสังคม”

“ผมคิดว่าถ้าเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เร็วเท่าไหร่ ประชาชนก็จะมีความเชื่อมั่น และเมื่อพวกเขามีความเชื่อมั่นก็จะเปิดธุรกิจอีกครั้งหนึ่ง ทำให้พนักงานกลับไปทำงาน ผู้บริโภคทำการใช้จ่าย ดังนั้นผมคิดว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส แล้วกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็จะกลับมา” นายพาวเวลกล่าว

วันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมทั้งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

อย่างไรก็ตาม ทั้งปี 2562 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในปี 2561 และ 2.4% ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เขาตั้งเป้าการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 3% ในช่วงการดำรงตำแหน่งของเขา

นอกจากนั้น นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงในไตรมาส 1/2563 ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภค, การลงทุนในภาคธุรกิจ และการใช้จ่ายของรัฐบาลได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19