

- ตลาดตื่นตระหนกหลังรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุกำลังจับตาผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 8,400 คน
- องค์การอนามัยโลก เตือนอีกไม่นาน ไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดไปยังแทบทุกประเทศทั่วโลก
- แค่สัปดาห์เดียวมูลค่าตลาดของตลาดหุ้นสหรัฐฯหายไปถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์
เม่ื่อเวลาประมาณ 21.57 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ 24,838.78 จุด รูดลงแรงต่อเนื่องอีก 927.86 จุด หรือ -3.60%
หลังจากที่ร่วงลงไปแล้วเฉียด 1,200 จุด ในช่วงปิดตลาดวานนี้ ด้านดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวในแดนลบต่อเนื่อง อยู่ที่ 2,876.02 จุด ติดลบ 102.74 จุด หรือ -3.45% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส 8,312.06 จุด ร่วงลงอีก 254.42 จุด หรือ -2.97%
นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ทางรัฐกำลังจับตาประชาชน 8,400 คน เนื่องจากต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้โอกาสการแพร่ระบาดทั่วสหรัฐฯ มีโอกาสเกิดขึ้น
นอกจากนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนในวันนี้ว่า ไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดไปยังแทบทุกประเทศบนโลกในไม่ช้า โดยนายคริสเตียน ลินด์เมเออร์ โฆษก WHO ยืนยันว่า ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในวงกว้างมากขึ้น และย้ำว่าไวรัสดังกล่าวสามารถแพร่ระบาดไปทั่วโลก และในขณะนี้มีจำนวนประเทศที่เชื้อโควิด-19 มีเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
WHO ประกาศดังกล่าว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจาก 5 ประเทศได้ออกแถลงการณ์ยืนยันการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกของประเทศ ได้แก่ อาเซอร์ไบจัน เบลารุส ลิธัวเนีย นิวซีแลนด์ และไนจีเรีย
ขณะที่ S&P Dow Jones Indices ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำในการจัดตั้งดัชนีอ้างอิงในตลาดการเงินโลก เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดของตลาดหุ้นทั่วโลกหายไปถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 6 วันที่ผ่านมา อันเนื่องจากไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นหลายแห่งได้ทรุดตัวลงเข้าสู่โซนปรับฐาน ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
นายโฮเวิร์ด ซิลเวอร์แบล็ตต์ นักวิเคราะห์จาก S&P กล่าวว่า มูลค่าตลาดของตลาดหุ้นสหรัฐหายไปถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 6 วันดังกล่าว โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ต่างเข้าสู่โซนปรับฐาน โดยได้ดิ่งลง 10% จากระดับสูงสุดที่ได้ทำไว้
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงมากกว่า 3,200 จุดในสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 10.8% และมีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในสัปดาห์นี้นับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการเงิน
“ขณะนี้ความกังวลใหญ่ที่สุดของเราก็คือผู้บริโภคจะเริ่มลดการใช้จ่าย เนื่องจากการใช้จ่ายดังกล่าวได้เป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และช่วยชดเชยการใช้จ่ายในภาคธุรกิจที่น่าผิดหวัง” นายซิลเวอร์แบล็ตต์กล่าว