

.ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)พุ่งขึ้น 7.4% ในเดือนพ.ย.สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์
.นักลงทุนหวั่นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลับมาเดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
.ตลาดจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ธ.ค. และผลการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14 ธ.ค.
เมื่อเวลาประมาณ 22.10น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่นไหวที่ 33,734.71 จุด ลดลง 46.77 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 อยู่ที่ 3,962.07 จุด ลดลง 1.44 จุด หรือ-0.04% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิสอยู่ที่ 11,074.79 จุด ลดลง 7.21 จุดหรือ-0.07%
นักลงทุนกลับมาขายหุ้นอีกครั้ง.หลังดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ทำลายความหวังที่ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ โดยดัชนี PPI ดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ ดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 7.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.2% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไปดีดตัว 0.3% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ธ.ค. ก่อนที่เฟดจะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้
ตลาดยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 รวมทั้งการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนถึงปี 2568
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.00% ในกลางปีหน้า โดยมองว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
โดยFedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค.2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%