

.นักลงทุนซื้อหุ้นคึกคัก หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นไม่มาก
.ตลาดหุ้นสหรัฐคลายกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง สะท้อนความกังวลดอกเบี้ยที่ลดลง
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,971.80 จุด เพิ่มขึ้น
315.38 จุด หรือ +1.00% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,901.16 จุด เพิ่มขึ้น 116.04 จุด หรือ +0.98% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,009.55 จุด เพิ่มขึ้น 42.70 จุด หรือ +1.08%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 526,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ค.
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวลงในเดือนส.ค. ช่วยให้บรรยากาศในตลาดหุ้นกลับมาคึกคัก โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 นักลงทุนคลายความกังวลแรงกดดันที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย.แต่น้ำหนักลดลงจากช่วงก่อนหน้า
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 60% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 40% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% โดยก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 74.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. และให้น้ำหนัก 25.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวลงในเดือนส.ค. ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของเฟดร่วงลงในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.5% แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีเมื่อวานนี้