ดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนลบกว่า 125 จุด กังวลสหรัฐคว่ำบาตรนำเข้าน้ำมันรัสเซีย



  • หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่พุ่งขึ้นกว่า 3% รับน้ำมันดิบโลกทะยานไม่หยุด
  • นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มอื่นๆ ลดความความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอ
  • ตลาดจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประเมินทิศทางเฟดขึ้นดอกเบี้ย

เมื่อเวลาประมาณ 22.25 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,691.83 จุด ลดลง
125.55 จุด หรือ -0.38% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,743.90 จุด ลดลง 87.06 จุด หรือ -0.68% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,175.53 จุด ลดลง 25.56 จุด หรือ -0.61%

ตลาดหุ้นสหรัฐมีความกังวลต่อสถานการณ์ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมประกาศมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในวันนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 126 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุระดับ 130 ดอลลาร์

หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่พุ่งขึ้นกว่า 3% ขณะที่ยังมีแรงเทขายหุ้นต่อเนื่องเพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจทั่วโลก นักลงทุนจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งจะกระตุ้นเงินเฟ้อ และกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทอย่างมากในการแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตามที่ทุกฝ่ายมองว่ามีความจำเป็น

นักลงทุนจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้ โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้