

.มีแรงเทขายหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ทำกำไรและลดความเสี่ยง
.ตลาดพักฐาน รอดูทิศทางเศรษฐกิจ หลังโควิดสายพันธุ์เดลตากระทบเศรษฐกิจโลก
.นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปลายเดือนหาสัญญาณดอกเบี้ย
เมื่อเวลา 21.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,375.99 จุด ลดลง 139.39 จุด หรือ -0.39% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,639.80 จุด ลดลง 183.10 จุด หรือ -1.24% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,441.03 จุด ลดลง 26.97 จุด หรือ -0.60%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน หุ้นกลุ่มพลังงานและการเงินปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนกังวลการกับมาระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ทำให้เศรษฐกิจในเอเชียชะลอตัวลงอีกครั้ง ซึ่งอาจจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจสหรัฐ โดยล่าสุด จีนเปิดเผยยอดค้าปลีกชะลอตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นักลงทุนขายหุ้นทำกำไร ขณะที่ตลาดพักฐาน อย่างไรก็ตาม การประกาศผลประกอบการบษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 2 ในช่วงที่ผ่านมา ยังคงออกมาในทิศทางที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว พบว่า 87% มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่บริษัท FactSet เริ่มทำการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2551
ตลาดจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในการประชุมดังกล่าว โดยคาดเฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยจะเริ่มทำการปรับลด QE ในเดือนต.ค.