

.ตลาดผิดหวังตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
.นักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้น รอดูสถานการณ์การฟื้นตัวเศรษฐกิจ
.จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ที่จะประกาศศุกร์นี้
เมื่อเวลา 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,312.27 จุด ลดลง 48.46 /จุด หรือ -0.14% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,347.69 จุด เพิ่มขึ้น 88.46 จุด หรือ +0.58% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,528.68 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด หรือ +0.13%
นักลงทุนผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจ และการจ้างงานที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์อยู่ในแดนลบ อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อหุ้นคืนในกลุ่มเทคโนโลยี หลังลดลงแรงวานนี้ ส่งผลให้ดัชนีแนสแด็ก และเอสแอนด์พีอยู่ในแดนบวก
ทั้งนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 374,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 613,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนส.ค.ยังคงสูงกว่าเดือนก.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 326,000 ตำแหน่ง
การจ้างงานที่ชะลอตัวในเดือนส.ค.ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ขณะที่สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 2.4% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้น และสต็อกบ้านที่ตึงตัว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ดิ่งลง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.9 ในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 58.6 หลังจากแตะระดับ 59.5 ในเดือนก.ค.
นักลงทุนกำลังหันมาจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 750,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2%