

.มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หลัง โกลด์แมน แซคส์ ประกาศกำไร-รายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าคาด
.นักวิเคราะห์คาดบริษัทจดทะเบียนจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 4.2% ในไตรมาส 2
.ตลาดหุ้นคลายกังวล คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่ถึง 1% ในการประชุมเดือนนี้
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,465.70 จุด เพิ่มขึ้น
177.44 จุด +0.57% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,582.28 จุด เพิ่มขึ้น 129.86 จุด หรือ +1.13% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,890.35 จุด เพิ่มขึ้น 27.19 จุด หรือ +0.70%
ผลประกอบการที่ดีของกลุ่มธนาคารช่วยพยุงดัชนีในอยู่ในแดนบวก โกลด์แมน แซคส์ ประกาศกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจซื้อขายพันธบัตรที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้พุ่งขึ้น 4%
อย่างไรก็ตาม แบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรในไตรมาส 2 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากธนาคารต้องทำการกันสำรองหนี้สูญวงเงิน 523 ล้านดอลลาร์ แต่มีรายได้สูงกว่าคาด โดยได้รับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น และการขยายตัวของพอร์ทเงินกู้
นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 4.2% ในไตรมาส 2 ขณะที่รายได้พุ่งขึ้น 10.2% ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 9.9% ในปีนี้
หุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้นกว่า 4% ขานรับข่าวที่ว่า สายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 Max 10 จำนวน 100 ลำ พร้อมกับออปชั่นในการซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 30 ลำ
นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 1.00% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลที่ระบุว่าผู้บริโภคได้ลดคาดการณ์เงินเฟ้อ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 5.2% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยต่ำกว่าระดับ 5.3% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่เฟดบางรายที่แสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.75% ในเดือนนี้ แทนที่จะปรับขึ้นอย่างรุนแรงถึง 1.00%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 33.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. และให้น้ำหนัก 66.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%