

- บรรยากาศซื้อขายไม่คึกคัก นักลงทุนติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปพรุ่งนี้
- ตลาดจับตาดอกเบี้ยจากผลการประชุมนโยบายการเงินเฟด วันที่ 14 ธ.ค.
- นักวิเคราะคาดเฟดเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย โดยคาดว่าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%ในครั้งนี้
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,647.38 จุดเพิ่มขึ้น
170.92 จุด หรือ +0.51% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,035.02 จุด เพิ่มขึ้น 30.41 จุด หรือ +0.28% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,946.22 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 จุด หรือ +0.30%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวแคบๆ ในแดนบวก นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ธ.ค. เพื่อประเมินทิศทางเงินเฟ้อ ก่อนธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี2566 รวมทั้งการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนถึงปี 2568
นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.00% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 2.00% ในปีหน้า หากสหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยระบุว่า เฟดได้ประเมินความเสี่ยงของเงินเฟ้อต่ำเกินไปในปี 2565