ดาวโจนส์เคลื่อนไหวติดลบกว่า 160 จุด ยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาด



  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เริ่มขึ้นแล้ววันนี้
  • ตลาดผิดหวัง ยอดค้าปลีกลดลง 1.3% ในเดือนพ.ค.ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาด
  • เฟดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดีอย่างที่คาด กดดันการดัชนีอยู่ในแดนลบ

เมื่อเวลา 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,231.32 จุด ลดลง 162.43 จุด หรือ -0.47% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,105.05 จุด ลดลง 69.10 จุด หรือ -0.49% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,243.93 จุด ลดลง 11.22 จุด หรือ -0.26%

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงิน ธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้และพรุ่งนี้ โดยเฉพาะการปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ย, อัตราเงินเฟ้อ และอัตราว่างงานในการประชุมดังกล่าว ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวถ้อยแถลงหลังการประชุมในวันพรุ่งนี้

นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ดี คาดว่าเฟดจะเริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. และจะเริ่มดำเนินการปรับลด QE ในเดือนธ.ค.หรือต้นปีหน้า ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาวันนี้น่าผิดหวัง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 1.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย.ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดค้าปลีกลดลงเพียง 0.8% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 0.7% ในเดือนพ.ค. หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนเม.ย.

ตลาดยังถูกกดดัน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ลดลง 7 จุด สู่ระดับ 17.4 ในเดือนมิ.ย. โดยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 23.0

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย.โดยการผลิตของภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ภาคเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น 1.2% ส่วนภาคสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 0.2%

อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 6.6% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.3% หลังจากดีดตัวขึ้น 6.2% ในเดือนเม.ย.