ดาวโจนส์ลบต่ออีกกว่า 70 จุด หวั่นจ้างงานแข็งแกร่งดันดอกเบี้ยสูงค้างนาน



  • .ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน
  • .นักลงทุนขายหุ้นต่อ มองธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่รีบลดดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
  • .ดัชนีแนสแด็กอยู่ในแดนบวก หลังหุ้นแอปเปิ้ล และหุ้นกลุ่มเทคฯ ช่วยพยุงดัชนี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังไม่มีข่าวดี นักลงทุนยังเทขายหุ้นต่อ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ  37,192.71 จุด ลดลง
73.96 จุดหรือ -0.20% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,755.19 จุด เพิ่มขึ้น 15.98 จุด หรือ +0.34%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,988.90 จุด เพิิ่มขึ้น 133.28 จุด หรือ 0.90% 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 187,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 208,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 4,750 ราย สู่ระดับ 203,250 ราย

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 1.80 ล้านราย ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.83 ล้านราย

ตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเหนือระดับ 4.1% หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานดังกล่าว นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักใกล้เคียงกันต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดหรือคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 53.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 70.2% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 44.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 26.8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของบริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ พุ่งขึ้นกว่า 2% ในการซื้อขายวันนี้ หลังจากที่แบงก์ ออฟ อเมริกาปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิ้ล สู่ระดับ Buy จากเดิมที่ระดับ Neutral และคาดการณ์ว่าราคาหุ้นแอปเปิ้ลยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกมากกว่า 20% และส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีขึ้นตาม ดันดัชนีแนสแด็กยืนในแดนบวก