ดาวโจนส์ลดลงกว่า 170 จุด จับตา “ไบเดน-พาวเวล”หารือเศรษฐกิจ



  • นักลงทุนจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปลพนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
  • ตลาดคากเป็นการหารือเพื่อแก้ปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี
  • ผลสำรวจของ Conference Board ชี้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,041.37 จุด
ลดลง 171.59 จุด หรือ -0.52% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,091.12 จุด ลดลง 40.01 จุด หรือ -0.33%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,137.22 จุด ลดลง 21.02 จุด หรือ -0.51%

นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น จับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ (31 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี ทั้งนี้ การประชุมระหว่างประธานาธิบดีไบเดนและนายพาวเวลถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศเสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดสมัยที่สอง

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะหารือกับนายพาวเวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่การทำให้อัตราเงินเฟ้อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระดับที่มีเสถียรภาพ และการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ของประชาชนวัยทำงาน

ที่ผ่านมานั้น เฟดภายใต้การนำของนายพาวเวลได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อด้วยการยุติมาตรการฉุกเฉินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายพาวเวล ได้กล่าวในงานสัมมนา Future of Everything Festival ซึ่งจัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็น เพื่อควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้พุ่งขึ้นรุนแรงจนสร้างความเสียหายต่อรากฐานของเศรษฐกิจ

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในช่วงต้นเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี

ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 106.4 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 108.6 ในเดือนเม.ย.