ดาวโจนส์ร่วงหนักต่อเนื่อง ติดลบกว่า 630 จุด กังวลโอมิครอนฉุดเศรษฐกิจโลกทรุด



. นักลงทุนเทขายหุ้น หลังโควิดโอมิครอนระบาดรุแรงในหลายประเทศเ
.นักวิเคราะห์กังวล ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯปลายปีนี้ ซานต้า แรลลี่ อาจจะไม่มา
.หุ้นโนวาแวกซ์-โมเดอร์นาพุ่ง หลังผลวิจัยสู้โอมิครอนได้สูงกว่า

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,732.19 จุด ร่วงลง
633.25 จุด หรือ -1.79% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,924.40 จุด ดิ่งลง 256.03 จุด หรือ -1.69% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,548.37 จุด ลดลง 72.27 จุด หรือ -1.56%

นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง หลังกังวลการแพร่ระบาดที่รุนแรงมากขึ้นของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ส่งผลให้หลายประเทศในยุโรป ยุติ หรือลดขนาดแผนการเฉลิมฉลองใหญ่ในช่วงคริสต์มาส และปีใหม่ 2565 และบางประเทศกลับไปล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง

นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว และสหรัฐกำลังเผชิญปัญหาจากการที่มีประชาชนจำนวนมากยังคงไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่รุนแรงขึ้น ทำให้ ผู้เชี่ยวชาญมีความกังวลต่อแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงปลายปีนี้ โดยอาจจะมีปรากฎการณ์ ซานต้าแรลลี่ หรือการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นอย่างแข็งแกร่งเหมือนในหลายๆ ปีที่ผ่านมา

“การคาดการณ์เรื่องซานต้าแรลลี่ในปีนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะส่วนหนึ่งตลาดได้ขึ้นมามากแล้ว ขณะที่ปริมาณการซื้อขายจะเบาบางลง ซึ่งจะทำให้ความผันผวนมากขึ้นในช่วงท้ายปี นอกจากนั้น นักลงทุนมีความกังวลสูงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ” นายไมเคิล เอโรน หัวหน้านักวิเคราะห์ของสเตท สตรีท โกลบอล แอดไวเซอร์ กล่าว

ส่วนนายเจฟฟ์ ไคลน์ท็อป หัวหน้านักวิเคราะห์จากชาร์ลส์ ชเวบ กล่าวว่า “ขณะที่เราก้าวเข้าสู่ช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ วอลุ่มการซื้อขายจะลดน้อยลง ขณะที่ความผันผวนจะมีมากขึ้น และแม้อาจเกิดซานต้าแรลลี่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าปริมาณการซื้อขายที่เบาบางจะทำให้ตลาดแกว่งตัวในช่วงขาลงเช่นกัน”

“เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ภาวะตลาดในช่วงปลายปี อันเนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่ซบเซา และการขาดปัจจัยหนุนจากข่าวด้านเศรษฐกิจหรือข่าวภาคธุรกิจที่จะกระตุ้นตลาด ทำให้ดัชนีถูกขับเคลื่อนจากข่าวเกี่ยวกับโอมิครอนเป็นหลัก” นายไคลน์ท็อปกล่าว

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของบริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์พุ่งขึ้น หลังจากองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) อนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัท เช่นเดียวกับราคาหุ้นของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ พุ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทเปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จะช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสูงถึง 37 เท่า