ดาวโจนส์ร่วงต่อ 410จุด โกลด์แมนแซคส์ คาดปีนี้สหรัฐติดลบ 6.2%

  • นักลงทุนยังคงกังวลวิกฤตไวรัสโคโรนากระทบเศรษฐกิจรุนแรง
  • ไตรมาสแรกดาวโจนส์ทรุดตัวลง 23.2% หนักสุดเป็นประวัติการณ์
  • โกลด์แมน แซคส์คาดคนตกงานเพียบ อัตราการว่างงานทั้งปีพุ่ง 15%

ัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 31 มี.ค.วันสุดท้ายของไตรมาสแรก ที่ 21,917.16 จุด ร่วงลงอีก 410.32 จุด หรือ -1.84% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,584.59 จุด ลดลง 42.06 จุด หรือ -1.60% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 7,700.10 จุด ลดลง 74.05 จุด หรือ -0.95%

โดนในเดือนมี.ค.เดือนเดียว ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 13.7% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 12.5% และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 10.1%

หากคิดทั้งไตรมาสแรก 1 ดาวโจนส์ทรุดตัวลง 23.2% ทำสถิติดิ่งลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 20% และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 14.2%

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรงทีสุดในประวัติศาสตร์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐจะลดลง 9% ในไตรมาส 1 และทรุดตัว 34% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการดิ่งลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาดีดตัว 19% ในไตรมาส 3 ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐจะดิ่งลง 6.2% ซึ่งจะเป็นตัวเลขการขยายตัวที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือเกรท ดีเพรสชั่น

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า อัตราการว่างงานจะพุ่งแตะ 15% ในปีนี้ โดยคาดว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานจะทะยานขึ้นอีก 5.5 ล้านรายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.28 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลงหนักสุด โดยหุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น ดิ่งลง 7.03% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น ลดลง 1.1% หุ้นเฟิร์สท์ เอนเนอร์จี ลดลง 1.04% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ร่วงลง 3.2% หุ้นคอนโซลิเดทเต็ด เอดิสัน อิงค์ ร่วงลง 3.4% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง 4%.หุ้นโดมิโนส์ พิซซา อิงค์ ร่วงลง 6.5%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวดีขึ้นตนมราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ขยับขึ้นบ้างเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 5.18% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 7.5% หุ้นเชฟรอน บวก 0.7% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.2%

ทั้งนี้ สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจที่ออกมาวานนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 3.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนธ.ค.

ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐอยู่ที่ระดับ 120.0 ในเดือนมี.ค. ซึ่งแม้ว่าลดลงจากระดับ 132.6 ในเดือนก.พ. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 110.0