

- ดัชนีความผันผวน CBOE พุ่ง แสดงความกังวลของนักลงทุนเพิ่มขึ้น
- ตลาดหุ้นกังวลสถานการณ์รัสเซียและยูเครนรุนแรงมากขึ้น
- นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงไบเดน-พาวเวล ชี้ทิศทางเศรษฐกิจ
เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,597.43 จุด ดิ่งลงต่อ
295.17 จุด หรือ -0.87% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,706.04 จุด ลดลง 45.36 จุด หรือ -0.33% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,347.13 จุด ลดลง 26.81 จุด หรือ -0.61%
นักลงทุนยังคงเทขายหุ้น เนื่องจากกังวลสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังการเจรจาหยุดยิงระหว่างคณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายสิ้นสุดลงโดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ
ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 6.43% สู่ระดับ 32.09 หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงตามการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 101 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุระดับ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนยังจับตา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่จะแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสวันนี้ ตามคำเชิญของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและชาติตะวันตกกับรัสเซียในกรณียูเครน
ตำรวจสหรัฐคุมเข้มความปลอดภัยในกรุงวอชิงตัน ดีซี ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการล้อมรั้วรอบอาคารรัฐสภาสหรัฐเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยในวันที่ 6 ม.ค.2564 ซึ่งฝูงชนที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ราว 2,500 คนได้บุกเข้าไปยังรัฐสภาเพื่อขัดขวางการนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง
ด้านนายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ ได้อนุมัติการส่งกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติจำนวน 700 นายเข้าปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยร่วมกับตำรวจประจำรัฐสภาสหรัฐ เพื่อรับมือกับ People’s Convoy ซึ่งเป็นกลุ่มคนขับรถบรรทุกที่ประท้วงรัฐบาลในการออกมาตรการบังคับการฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัยเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยขบวนรถบรรทุกดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าตรงมายังกรุงวอชิงตัน ดีซี
ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังจับตาแถลงการณ์รอบครึ่งปีของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มี.ค. โดยอาจเป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะเริ่มประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค.
การแถลงนโยบายการเงินดังกล่าวจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนจะส่งผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดหรือไม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดบางรายระบุว่า เฟดจะนำผลกระทบที่เกิดจากความขัดแย้งในยูเครนเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณานโยบายการเงินของเฟด