

.ตลาดหุ้นสหรัฐยังลงต่อ กังวลดอกเบี้ยขึ้นแรงฉุดเศรษฐกิจถดถอย
.ราคาน้ำมันดิ่งลงวันนี้ กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงตาม
.นักลงทุนเทขายนลดความเสี่ยง รอทิศทางเศรษฐกิจดีขึ้น
เมื่อเวลาประมาณ 22.35 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,902.03 จุด ลดลง
196.96 จุด หรือ -0.61% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,888.19 จุด ลดลง 129.48 จุด หรือ -1.08% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,997.83 จุดล ลดลง 32.78 จุด หรือ -0.81%
ตลากหุ้นสหรัฐฯยังอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่อง โดบวันนี้ราคาหุ้นปรับตัวลงทุกกลุ่ม นำโดยกลุ่มพลังงานตามการดิ่งลงของราคาน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนยังคงความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 70.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 29.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐได้เริ่มชะลอตัวในเดือน มิ.ย. จากเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 18.0% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 19.9% ในเดือนพ.ค. ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 20.5% ในเดือนพ.ค.
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มชะลอตัวลงจากการที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองดีดตัวขึ้น ส่งผลให้ยอดขายบ้านและราคาบ้านปรับตัวลง ขณะที่สต็อกบ้านเริ่มเพิ่มมากขึ้น