ดาวโจนส์ร่วงต่อกว่า 50 จุด นักลงทุนกังวลดอกเบี้ยขึ้นเร็วหลังเงินเฟ้อพุ่ง

. นักลงทุนยังคงกังวลอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น กดดันเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
. FedWatch Tool ระบุมีการคาดการณ์สูงขึ้นว่าจะมีปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกเดือนก.ค.65
.มีแรงซื้อหุ้นกลับเข้ามาบางส่วนส่งผลดัชนีแนสแด็ก และเอสแอนด์พี ปรับตัวขึ้น

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 36,026.39 จุด
ลดลง 53.55 จุด -0.15% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,756.65 จุด เพิ่มขึ้น 133.94 จุด หรือ +0.86%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,660.73 จุด เพิ่มขึ้น 14.02 จุด หรือ +0.30%

มีแรงซื้อกลับส่งผลให้ดัชนีแนสแด็ก และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น หลังปรับตัวลงวานนี้ อย่างไรก็ตามดัชนีดาวโจนส์ยังคงร่วงลงต่อเนื่อง นักลงทุนยังคงกังวลอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยได้เพิ่มการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกลางปีหน้า หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในเดือนต.ค.

FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ค.2565 จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนก.ย.2565
โดยมองว่า เฟดมีแนวโน้ม 80% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.2565 และมีแนวโน้ม 100% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.2565 ส่วนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.2565

หุ้นของบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ดิ่งลง หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2564 ขณะที่หุ้นอาลีบาบา พุ่งขึ้น รับมหกรรมลดราคาสินค้าออนไลน์ประจำปีในวันคนโสด วันที่ 11 เดือน 11 อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจจีน และเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงเพิ่งฟื้นตัวจากโควิด-19 อาจจะทำให้ยอดขายออนไลน์ในวันคนโสด ไม่ทำลายสถิติการซื้อขายในปี 63 ที่ผ่านมา

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าอีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัท Tesla ขายหุ้นไปประมาณ 930,000 หุ้น หรือคิดเป็นเงิน 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 36,000 ล้านบาท ในสัปดาห์นี้ ตามรายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ