ดาวโจนส์ร่วงกว่า 850 จุด เงินเฟ้อยังพุ่งเหนือความคาดหมาย



.ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค.สูงต่อเนื่อง
.นักลงทุนขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง ผิดหวังตัวเลขเงินเฟ้อที่คาดว่าจะลดลง
.ตลาดคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง 1% ในการประชุมสัปดาห์หน้่าสกัดเงินเฟ้อ

เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,525.69 จุด ลดลง
855.65 จุด หรือ -2.64% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,770.22 จุด ลดลง 496.19 จุด หรือ -4.05%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,982.54 จุด ลดลง 127.87 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 800 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% เทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.1%

ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1% เทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาดในวันนี้ ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 18% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 82% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนไม่เคยให้น้ำหนักว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมเดือนก.ย.

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า การควบคุมเงินเฟ้อจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดในวันนี้

“การสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นและเวลามากขึ้น ถึงแม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับเดือนสิงหาคมบ่งชี้ถึงความคืบหน้ามากขึ้นในการทำให้เงินเฟ้อลดลงในเศรษฐกิจสหรัฐ” นายไบเดนกล่าว