ดาวโจนส์ร่วงกว่า 60 จุด จับตาประชุมเฟด-เศรษฐกิจถดถอย



.นักลงทุนชะลอกรซื้อขาย รอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
.ตลาดหุ้นสหรัฐกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังไอเอ็มเอฟปรับลดเศรษฐกิจโลก
.ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงสู่ระดับ 95.7 ลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

เมื่อเวลาประมาณ 22.01 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,924.35 จุด ลดลง 65.69 จุด หรือ -0.21% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,628.46 จุด ลดลง 154.20 จุด หรือ -1.31% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,924.35 จุด ลดลง 65.69 จุด หรือ -0.21%

ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน จับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้และเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมรอบนี้ รวมทั้งจับตาการมองทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯของเฟด

นักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 และ 2566 โดยเตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่รุนแรงกว่าคาด รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.2% ในปี 2565 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.9% ในปี 2566 โดยปรับลดลง 0.4% และ 0.7% ตามลำดับจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย. ขณะเดียวกัน IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐสู่ระดับ 2.3% ในปี 2565 และ 1.0% ในปี 2566

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 28 ก.ค. หลังจากเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า GDP หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 ขณะที่ผลการสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์ระบุว่านักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 1% ในไตรมาส 2

ด้านผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลง 2.7 จุด สู่ระดับ 95.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน จากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และความวิตกที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันร่วงลงสู่ระดับ 141.3 ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าร่วงลงสู่ระดับ 65.3

ราคาหุ้นของวอลมาร์ท อิงค์ ดิ่งลงกว่า 8% หลังจากที่บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ โดยบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในไตรมาส 2 และตลอดปี 2565 เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อกำลังส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายสินค้าจำพวกเสื้อผ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า และหันไปใช้จ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหาร ทั้งนี้ การร่วงลงของหุ้นวอลมาร์ทได้ฉุดให้ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกดิ่งลงตามด้วย

วอลมาร์ทคาดการณ์ว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 จะลดลงราว 8-9% และกำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2565 จะลดลงราว 11-13% จากเดิมที่คาดว่ากำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และกำไรต่อหุ้นในปี 2565 จะลดลงเพียง 1% นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบท และไมโครซอฟท์หลังปิดตลาดวันนี้