ดาวโจนส์ร่วงกว่า 360 จุด เจอแรงขายทำกำไรดันดัชนีร่วง



.นักลงทุนเทขายหุ้นที่ได้กำไร หลังดัชนีดาวโจนส์ขึ้นแรงต่อเนื่อง 2 วันทำการ
.ตลาดแรงงานกลับมาเข้มแข็ง การจ้างงานภาคเอกชนดือนก.ย. เพิ่มสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
.หุ้นพลังงานดีดขึ้น ขานรับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากโอเปก พลัสลดกำลังการผลิต

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,948.92 จุด ลดลง
367.40 จุด ลดลง -1.21% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,949.04 จุด ลดลง 227.37 จุด หรือ -2.03%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,731.54 จุด ลดลง 59.39 จุด หรือ -1.57%

นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 1,600 จุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

อย่างไรก็ตาม หุ้นพลังงานพุ่งขึ้นสวนทางตลาด ขานรับราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังมีข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อหนุนราคาน้ำมันในตลาด

ราคาหุ้นทวิตเตอร์ร่วงลง 2.10% ในวันนี้ หลังจากปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้น 22.24% ขานรับรายงานข่าวที่ว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ ได้ตัดสินใจยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของทวิตเตอร์อีกครั้งในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ตัวเลขตลาดแรงงานยังคงออกดีกว่าที่คาด โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง จากระดับ 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 238,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 30,000 ตำแหน่ง

ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 265,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%