

.แบบจำลองเฟด ระบุเศรษฐกิจสหรัฐโต 3.5% ในไตรมาส 4 โดยต่ำกว่าระดับ 4.1% ที่คาดไว้เดิม
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
.นักลงทุนยังคงขายหุ้นลดความเสี่ยง โดยติดตามภาวะเศรษฐกิจที่ส่อถดถอย และดอกเบี้ยใกล้ชิด
เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,106.77 จุด ลดลง
190.19 จุด หรือ -0.57% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,850.77จุด ลดลง 106.24 จุด หรือ -0.97% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,901.24 จุด ลดลง 27.62 จุด หรือ/-0.70%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังโงหัวไม่ขึ้น ตกต่อเนื่องจากวันก่อนหน้าที่ร่วงแรงกว่า 600 จุด นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ และชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไป โดยตลาดยังคงกังวลภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเร็ว และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบีบยที่ออกมาได้ดีเท่าที่คิด ขณะที่ ซีอีโอ “เจพีมอร์แกน” คาดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พุ่งทะลุ 5% เนื่องจากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง
นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส กล่าวกล่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นสูงกว่าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ไว้ในขณะนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง โดยอัตราดอกเบี้ยจะดีดตัวสูงกว่า 5% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในระดับสูง และสิ่งนี้จะไม่หายไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับตัวเลขชี้ทิศทางเศรษฐกิจ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.5% ในไตรมาส 4/2565 โดยต่ำกว่าระดับ 4.1% ที่มีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 190,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 214,000 ราย
บริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เปิดเผยกำไรลดลงในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.2565 ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ตามปีงบการเงินของบริษัท แม้บริษัททำการปรับขึ้นราคาสินค้า แต่ก็ไม่สามารถชดเชยยอดขายที่ตกต่ำ โดย P&G มีกำไรที่ระดับ 3.9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.59 ดอลลาร์/หุ้น ลดลงจากระดับ 4.22 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.66 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปี 2564 ขณะที่ยอดขายลดลง 1% สู่ระดับ 2.077 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.073 หมื่นล้านดอลลาร์