

- นักลงทุนเทขายหุ้นอีกครั้งหลังการเจรจาระหว่างยูเครน-รัสเซียไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
- ตลาดหุ้นกังวลอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. พุ่งขึ้นแรง 7.9% สูงสุดรอบ 40 ปี
- จับตาดอกเบี้ยเฟด หลังECB) ต่อยุติการซื้อพันธบัตรในไตรมาส 3 เตรียมพร้อมขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ
เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,107.98 จุด ลดลง
178.27 จุด หรือ -0.54% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,133.52 จุด ลดลง 122.02 จุด หรือ -0.92% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,256.18 จุด ลดลง 21.70 จุด หรือ -0.51%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในแดนลบอีกครั้ง หลังการเจรจาระหว่างนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง และทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง หรือการกำหนดเส้นทางปลอดภัยสำหรับชาวยูเครนที่จะอพยพออกจากประเทศแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี และตัวเลขตลาดแรงงานที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือน ก.พ. พุ่งขึ้น 7.9% เทียบกับระเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.8%
ขณะที่ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.8% เทียบกับเดือนก่อนหน้า สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7% ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2525 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยัเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 217,000 ราย ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงสูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้
ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในยูเครน โดยECB ส่งสัญญาณยุติการซื้อพันธบัตรในไตรมาส 3 ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยจะปูทางสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากพุ่งขึ้น 5.8% ในเดือนก.พ. สูงกว่าเป้าหมายของ ECB ที่ระดับ 2%