ดาวโจนส์ร่วงกว่า 130 จุด กังวลโควิดพุ่ง-เศรษฐกิจล็อกดาวน์


.นักลงทุนกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในสหรัฐพุ่ง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 165,029 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
.โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ยืนยันไม่สั่งชัตดาวน์เศรษฐกิจ
. มนูชิน ระบุ จะไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อเยียวยาโควิด-19

เมื่อเวลา 22.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,344.53
จุด ลดลง 138.70 จุด-0.47% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 3,571.79 จุด ลดลง 10.08 จุด หรือ -0.28%
อย่างไรก็ตาม ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปรับเพิ่มขึ้น โดยเคลื่อนไหวที่ 11,912.71 จุด เพิ่มขึ้น 7.99 จุด หรือ +0.07%

นักลงทุนกังวลการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯ โดยสื่อรายงานว่า อัตราเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในสหรัฐอยู่ที่ 165,029 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้น 24% จากสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เมื่อวานนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 187,833 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์

รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศมาตรการเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่นิวยอร์กประกาศปิดโรงเรียนรัฐบาลทุกแห่ง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวยืนยันว่า “ผมจะไม่สั่งชัตดาวน์เศรษฐกิจ แต่ผมจะชัตดาวน์ไวรัส ผมขอย้ำว่าจะไม่มีการชัตดาวน์ทั้งประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19”

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยืนยันว่าจะไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเขาระบุว่า “ รัฐบาลยังคงมีเงินทุนอีกมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนี่ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง สอดคล้องกับกฎหมาย โดยเรากำลังทำตามเจตนารมณ์ของสภาคองเกรส”

นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก แสดงความผิดหวังต่อการที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ประกาศว่าจะไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้ของเฟดสำหรับการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 วงเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ จะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค. โดยนายอีแวนส์กล่าวว่า โครงการของเฟดดังกล่าวมีความสำคัญต่อตลาด ท่ามกลางภาวะที่ผันผวน

นายมนูชินได้ส่งจดหมายถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด โดยระบุว่า เม็ดเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ที่จัดสรรให้กับกระทรวงการคลังภายใต้มาตรการ CARES Act เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น เงินส่วนใหญ่ดังกล่าวได้ถูกจัดสรรให้กับเฟดเพื่อใช้ในโครงการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร และรัฐบาลท้องถิ่น โดยเฟดควรคืนเงินที่ไม่ได้ใช้ให้กับสภาคองเกรสเพื่อนำไปใช้ในด้านอื่นๆ ต่อไป

“ผมขอให้เฟดดำเนินการคืนเงินส่วนที่ไม่ได้ใช้ให้กับกระทรวงการคลัง” นายมนูชินระบุในจดหมายที่ส่งถึงนายพาวเวล โดยปฏิเสธที่ต่ออายุโครงการดังกล่าวที่เฟดมองว่ามีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีสินเชื่อไหลเวียนไปยังทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างหนักในรอบ 100 ปี