

.ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 268,000 รายต่ำสุดตั้งแต่ มี.ค.63
.นักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น คาดเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกเร็วขึ้น
.ผลประกอบการค้าปลีกยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ยังดีต่อเนื่อง
เมื่อเวลาประมาณ 22.00น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,804.16 จุด ลดลง 126.89 จุด หรือ -0.35% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,939.70 จุด เพิ่มขึ้น 18.13 จุดหรือ +0.12% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,692.66 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด หรือ +0.09%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 268,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 260,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 272,750 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.2563 ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 129,000 ราย สู่ระดับ 2.08 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563
นักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี และยอดค้าปลีกที่สูงกว่าคาดซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ พบว่า นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมี.ค.2565 จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนก.ค.2565
ด้านผลประกอบการยังออกมาในทิศทางที่ดี โดยบริษัทโคห์ลส์ คอร์ป และเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานตัวเลขกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้