.นักลงทุนรอลุ้นผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กำลังเริ่มต้น
.กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกเป็ย3%
.ตลาดคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ก่อนหยุด
เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,434.62 จุด เพิ่มขึ้น 23.38 จุด หรือ+0.07%ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,558.76จุด เพิ่มขึ้น
+4.12 จุดหรือ+0.09%ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,113.40 จุด เพิ่มขึ้น 54.53 จุด หรือ+0.39%
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบแต่ยังสามารถยืนในแดนบวกได้ นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มต้นคืนนี้ แลัประกาศผลตัดสินในคืนวันพุธ
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค.
ตลาดยังจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทอัลฟาเบทและไมโครซอฟท์จะเปิดเผยผลประกอบการหลังปิดตลาดวันนี้ ขณะที่บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ จะเปิดเผยหลังปิดตลาดวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ บริษัทราว 130 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว ซึ่งบริษัทจำนวน 79% มีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในวันนี้ โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 สู่ระดับ 3% จากเดิมคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 2.8%
ตลาดมองว่าเฟดใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้ และจะคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
