ดาวโจนส์ยืนแดนบวกกว่า 280 จุด อาจได้เริ่มใช้วัคซีนต้านโควิดเร็วกว่าคาด



  • ไฟเซอร์ อิงค์ และ BioNTech ได้ขออนุมัติFDAเมื่อวันศุกร์ ใช้วัคซีนต้านโควิด-19
  • ไบเดน ยืนยันไม่ออกคำสั่งล็อกดาวน์สหรัฐทั้งประเทศ
  • ตลาดจับตามนูซิน-พาวเวล แถลงต่อวุฒิสภา

เมื่อเวลาประมาณ22.00น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,543.85จุด เพิ่มขึ้น 280.37 จุดหรือ+0.96% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 3,584.32 จุด เพิ่มขึ้น 26.78จุดหรือ+ 0.75%ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปรับเพิ่มขึ้น โดยเคลื่อนไหวที่ 11,927.95 จุด เพิ่มขึ้น 72.98 จุดหรือ+ 0.62%

หลังจากเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงสุดสัปดาห์ เปิดตลาดวันนี้นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น ขานรับความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 ที่อาจจะได้ใช้ในเร็ววันนี้

ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เมื่อวันศุกร์ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน

หาก FDA ให้การอนุมัติ ก็จะส่งผลให้ไฟเซอร์สามารถทยอยใช้วัคซีนดังกล่าวกับชาวอเมริกันกลุ่มต่างๆ โดยกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน ขณะที่กลุ่มผู้ให้บริการในภาคส่วนที่สำคัญ ครูอาจารย์ คนจรจัด และนักโทษในเรือนจำ จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มต่อไป ตามมาด้วยกลุ่มเด็กและวัยรุ่น

ทั้งนี้ ไฟเซอร์นับเป็นบริษัทแรกที่ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ต่อ FDA เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยบริษัทระบุว่า วัคซีน BNT162b2 มีประสิทธิภาพมากถึง 95% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งสูงกว่าวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งให้ผล 94.5%

ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางบริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 70% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ FDA ยังได้ให้การอนุมัติการใช้แอนติบอดีของ Regeneron ในการรักษาโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยได้รับก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน เพื่อคลายความกังวลถึงการปิดเศรษฐกิจ นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวยืนยันว่า เขาจะไม่ออกคำสั่งล็อกดาวน์สหรัฐทั้งประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ตลาดจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาแถลงในวันนี้ว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จะเข้าทำการชี้แจงรายไตรมาสต่อทางคณะกรรมาธิการในวันที่ 1 ธ.ค. เกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดและรัฐบาลสหรัฐในการเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

การชี้แจงดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นายมนูชินได้ตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จะไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้ของเฟดสำหรับการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 วงเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ ที่จะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค.